• หน้าแรก
  • สำรองที่นั่ง
  • พุทธคยา
  • ภูฏาน
  • บล็อก
  • ติดต่อเรา
ภูฏานแอร์ไลน์บินตรงสู่พุทธคยา
  • หน้าแรก
  • สำรองที่นั่ง
  • พุทธคยา
  • ภูฏาน
  • บล็อก
  • ติดต่อเรา
ติดต่อเรา 026304600

Bhutan Therapy

7/12/2019

0 Comments

 
Picture
  ในยุคแห่งโลเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ผู้คนอยู่ท่ามกลางการแข่งขันอย่างสูง คนเมืองใช้เวลาอยู่ในป่าคอนกรีตแทบทุกช่วงเวลาของชีวิต เต็มไปด้วยความวุ่นวายจากมลภาวะสารพัดรูปแบบ เมื่อร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย จนเกิดความเครียด จนต้องไขว่คว้าหาทางรักษาบำบัดร่างกาย ผู้คนจึงโหยหาการพาตัวเองเพื่อกลับไปใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากขึ้น ด้วยเป็นยาบำบัดที่ดีที่สุดต่อมนุษย์

   หากจะไปสัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มที่ ประเทศภูฏานเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ นับเป็นอีกทางเลือกที่ควรค่าแก่การไปเยือน ด้วยภูฏานเป็นประเทศเล็กๆ ที่เปี่ยมล้นด้วยรอยยิ้มและความสุข ที่สำคัญยังถูกโอบล้อมไว้ด้วยธรรมชาติและขุนเขา ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นธรรมชาติอันงดงาม เพราะนอกจากภูฏานจะมีพื้นที่ป่ามากถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศแล้ว ภูฏานยังเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่มีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นค่าติดลบ (Carbon-Negative) ด้วยภูฏานมีปริมาณทรัพยากรทางธรรมชาติจำนวนมหาศาล จึงทำให้ภูฏานมีปริมาณป่าไม้ที่ปล่อยออกซิเจนมากกว่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 1.1 ล้านตัน จึงทำให้ภูฏานมีปริมาณปล่อยคาร์บอนติดลบ จึงทำให้มั่นใจได้ว่า หากคุณมาเยือนประเทศภูฏานจะได้สูดอากาศสดๆ อันบริสุทธิ์ที่ธรรมชาติพร้อมมอบให้ช่วยเติมเต็มพลังชีวิตตลอดเวลาการเดินทางในภูฏานอย่างแน่นอน
Picture
     เมื่อคุณต้องการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตประจำวันกับการเดินทางท่องเที่ยว ไปพร้อมกับวิธีง่ายๆที่จะช่วยบำบัดรักษาความเหนื่อยล้า และเพิ่มพลังให้กับชีวิต ด้วยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างศาสตร์การอาบป่า (Forest Therapy) ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อคุณมาเยือนประเทศภูฏานทุกย่างก้าวของการเดินทางคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม และนอกจากจะได้รับออกซิเจนที่ต้นไม้ปล่อยมาแล้ว ยังมีน้ำมันหอมระเหยที่เรียกว่า ‘ไฟทอนไซด์’ (Phytoncide) หรือ ‘กลิ่นธรรมชาติบำบัด’ ที่ต้นไม้ปล่อยออกมาอีกด้วย อันอุดมไปด้วยประโยชน์นานับประการต่อร่างกายมนุษย์ ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ลดความเครียด ส่งเสริมสุขภาพจิต และช่วยเพิ่มระดับภูมิต้านทานในร่างกาย รวมถึงสามารถเพิ่มการทำงานของเซลล์ฆาตกรธรรมชาติ (Natural Killing Cell – NK) ที่มีส่วนช่วยต่อสู้กับไวรัส หรือโรคมะเร็งบางชนิด เป็นการรับประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภูฏานกับ Bhutan Therapy ให้ภูฏานช่วยบำบัดรักษาเยียวยา เพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย และทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นด้วย พร้อมเพลิดเพลินไปกับการเดินทางท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัสถึงวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมอันงดงาม ณ ประเทศภูฏาน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก

  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมนุษย์มาตั้งแต่อดีตกาล ที่คอยมอบสิ่งดีๆให้กับมนุษย์เสมอ ว่ากันว่าหากเราเข้าใจธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะมอบพลังให้ร่างกายและจิตใจมนุษย์อย่างมากมาย เป็นพลังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ร่างกายรับรู้ได้ว่าเป็นผลดีมากเพียงไร ดังที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า
“มองลึกลงไปในธรรมชาติ แล้วเราจะเข้าใจทุกอย่างได้ดีขึ้น”
“Look deep into nature, and then you will understand everything better.”
​
0 Comments

Forest Therapy

7/12/2019

0 Comments

 
Picture
ในยุคโลกาภิวัตน์ การดำเนินชีวิตของคนเมืองเต็มไปด้วยความรีบเร่ง ก้าวกระโดดไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้หลงลืม และค่อยๆออกห่างไปจากธรรมชาติอันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ที่เป็นมาตั้งแต่ในอดีต เราจึงควรพาตัวเองกลับเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เพื่อให้ธรรมชาติช่วยบำบัดและเยียวยาร่างกายของเรา เพราะ ‘ธรรมชาติคือยาที่ดีที่สุด’


   การอาบป่า (Forest Bathing หรือ Forest Therapy) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า ชิริน - โยกุ (Shirin-yoku) ที่มาจากคำว่า ชินริน แปลว่า ป่า ส่วน โยกุ แปลว่า การอาบน้ำ หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นการไปแช่น้ำในสระหรือเล่นน้ำตกในป่า แต่เป็นการพาร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยไปพักผ่อนโดยการเข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้น เป็นการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจอย่างหนึ่ง โดยการใช้เวลาซึมซับธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เพื่อใช้เวลาอยู่ท่ามกลางป่าไม้ และขุนเขา ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเดินป่าหรือไม่ชอบเดินป่า ก็สามารถใช้ศาสตร์การอาบป่านี้ได้ เพราะการอาบป่าเป็นการทอดน่องและค่อย ๆ สัมผัสซึมซับกับธรรมชาติให้รู้สึกและรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งซึ่งกันและกัน แต่สิ่งที่ทำให้ Shinrin-Yoku แตกต่างจากการเดินป่าหรือปีนเขาทั่วไป นั่นคือการตั้งสติและรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวผ่านการเคลื่อนไหว จึงเป็นเหมือนการเดินเล่นในป่าไปพร้อม ๆ กับการเปิดประสาทสัมผัสทั้งห้าเพื่อติดต่อกับธรรมชาติโดยตรง ด้วยการมีสติอยู่กับลมหายใจในทุก ๆ ก้าวที่ก้าวเดิน

   การอาบป่าจึงเป็นการใช้เวลาอยู่ในป่า ด้วยการเดินทอดน่องสบายๆ ซึมซับธรรมชาติให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนเมืองผู้มีวิถีชีวิตเร่งรีบ และมีความเครียดสูงจนเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยที่มีผลกับร่างกายและจิตใจ ใช้ความเงียบและสงบเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ค่อยๆ เดินสบายๆ มองธรรมชาติผ่านสายตา ฟังเสียงลม ลำธาร และนกร้อง ในขณะเดียวกันก็สามารถสูดกลิ่นหอมสดชื่นจากกลิ่นไอของป่า ซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่ธรรมชาติมอบให้ เพื่อให้ป่าและธรรมชาติบำบัดและเยียวยาคุณ แล้วจะพบว่าทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งวิเศษเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ธรรมชาติพร้อมจะมอบให้เราเสมอเพียงแค่เราก้าวเท้าเข้าป่า
Picture
   จากผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า การอาบป่าสามารถฟื้นฟูกลไกลต่าง ๆ ของร่างกายได้ ด้วยธรรมชาติมีพลังในการบำบัดรักษา เพราะนอกจากต้นไม้จะปล่อยออกซิเจนออกมาแล้ว ยังมีการปล่อยน้ำมันหอมระเหยที่เรียกว่า  ‘ไฟทอนไซด์’ (Phytoncide) หรือ ‘กลิ่นธรรมชาติบำบัด’ ที่อุดมไปด้วยประโยชน์นานับประการต่อร่างกายมนุษย์ ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ลดความเครียด ลดความดันเลือด ลดอาการซึมเศร้า ส่งเสริมสุขภาพจิต ทำให้อารมณ์ดี และเกิดความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังช่วยให้เรามีชีวิตยืนยาวขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการอาบป่า คือ การที่ร่างกายได้รับสารบริสุทธิ์จากธรรมชาติผ่านการหายใจ ซึ่งสารเหล่านี้ช่วยเพิ่มระดับภูมิต้านทานในร่างกาย รวมถึงสามารถเพิ่มการทำงานของเซลล์ฆาตกรธรรมชาติ (Natural Killing Cell – NK) ที่อาจช่วยต่อสู้กับไวรัส เนื้องอก หรือโรคมะเร็งบางชนิด รวมถึงช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวรวดเร็วขึ้นจากการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือจากการผ่าตัด อีกทั้งยังเพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย และทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นด้วย

   นอกจากนี้ การอาบป่าสามารถกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันในร่างกายเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนหลังจากอาบป่า หากเราอาบป่าเดือนละครั้ง ก็จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อย่างเพียงพอ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์อันน่าอัศจรรย์ ที่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์แล้ว หากเราลองใช้ศาสตร์การอาบป่า พาตัวเองไปอยู่กับธรรมชาติ แล้วเราจะพบว่าพลังแห่งธรรมชาติมหัศจรรย์เพียงใด
​

   ทุกท่านคงได้เห็นแล้วว่า ธรรมชาติ นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของมนุษย์ที่ไม่สามารถตัดขาดออกไปได้ เพียงแต่มนุษย์มักจะหลงลืมและมองข้ามไปเท่านั้นเอง หากคุณอยากจะลองศาสตร์การอาบป่าเพื่อเติมพลังให้กับชีวิต ประเทศภูฏานก็เป็นอีกที่ที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ลองไปสัมผัส ด้วยภูฏานเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ มีพื้นที่ป่าไม้มากถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด เรียกได้ว่าไม่ว่าจะยืนอยู่จุดใดในประเทศภูฏาน คุณก็จะได้สัมผัสกลิ่นไอของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เราจึงอยากให้คุณได้มาเยือน เพื่อให้ธรรมชาติในภูฏานบำบัด (Bhutan Therapy) ร่างกายที่เหนื่อยล้า ได้เติมเต็มพลังงานอย่างเต็มที่
0 Comments

เดินตามรอยพระพุทธเจ้า สู่สังเวชนียสถาน สำคัญของพุทธศาสนิกชน

6/26/2019

0 Comments

 
Picture
          สังเวชนียสถาน ถือว่าเป็นสถานที่ควรไปเคารพสักการะ ควรไปแสวงบุญ เพื่อให้เกิดความสังเวชและเกิดพุทธานุสติ อันจักนำมาซึ่งบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ โดยมีสังเวชนียสถาน 4 แห่งที่สำคัญ คือ สถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้  สถานที่แสดงปฐมเทศนา  และสถานที่ปรินิพพาน ซึ่ง 4 สังเวชนียสถานเหล่านี้ ได้เกิดขึ้นโดยคำแนะนำของพระพุทธองค์ที่ได้ตรัสว่า “ผู้ใดระลึกถึงพระองค์ พึงจาริกไปยังสังเวชนียสถานทั้งสี่นี้”  วันนี้ สายการบิน Bhutan Airlines ได้รวบรวมเรื่องราวและที่มาของ สังเวชนียสถาน ที่ชาวพุทธควรไปเคารพสักการะ เพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า

​
Picture

​1.ลุมพินีวัน

         ลุมพินีคือสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า เป็นสังเวชนียถานแห่งที่ 1 ใน 4 ปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศเนปาล ตำบลรุมมินเดจังหวัดไพราวา หรือสิทธาตนคร ครั้งพุทธกาลตั้งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ พ.ศ. ๙๔๒ สมณะฟาเหียน ได้จาริกมาชมพูทวีป บันทึกไว้ ณ ลุมพินี มีบ่อน้ำ ใสสะอาด มีสังฆารามเจดีย์และเสาหินตั้งตระหง่านอยู่ พระสงฆ์ ประพฤติปฏิบัติเรียบร้อย ก่อนที่จะอุบัติในโลก พระโพธิสัตว์จะต้องพิจารณาถึงสิ่งสำ คัญ ๕ ประการ เรียกว่า ปัญจมหาวิโลกนะ1. กาลเวลา คือ ไม่มากหรือน้อยเกินไป เป็นยุคที่มนุษย์มีอายุร้อยปี (เห็นพระไตรลักษณ์)
2. ทวีป คือ เลือกชมพูทวีป
3. ประเทศ คือ มัชฌประเทศ
4. ตระกูล คือ ตระกูลที่คนยกย่องเช่น ตระกูลกษัตริย์
5. พระมารดา เป็นผู้ที่สั่งสมบุญบารีมาดี คือพระนางสิริมหามายา



​
Picture

​2.วัดมหาโพธิ์ พุทธคยา

          พุทธคยา ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก พุทธคยาเป็นสังเวชนียสถานแห่งที่ 2  เป็นศูนย์รวมของการจาริกแสวงบุญจากผู้มีจิตศรัทธาทั่วโลก รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วโลก คือสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในอาณาบริเวณพุทธคยาจะมีวัดชาวพุทธเป็นจำนวนมากร่วมทั้งประเทศไทย พุทธคยาถือว่าเป็นปฐวีนาภี สะดือของโลก เป็นจุดศูนย์กลางของโลก

​
​
Picture

3.ธรรมเมกขสถูป(สารนาถ)

          สถานที่ที่ทรงแสดงธรรมเพื่อประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรกในโลกนั้น เกิดเป็นพุทธานุสรณ์สถานระลึกถึง คือ ‘ธัมเมกขสถูป’ เป็นสังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ.269-311) ธัมเมกขสถูปเป็นสถูปขนาดใหญ่ มีความสูง 31.3 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 28.3 เมตร ด้านล่างก่อด้วยหิน สูงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งทำเป็นช่องๆ แต่ละช่องประดิษฐานพระพุทธรูปแบบต่างๆ ส่วนช่องใหญ่รอบองค์พระสถูปนั้นมี 8 ช่อง ซึ่งมีความหมายถึง มรรคมีองค์ 8 ประการ ธัมเมกขสถูป มาจากคำว่า ‘ธัมเมกขะ’ หมายถึง เห็นธรรม ส่วน ‘สถูป’ หมายถึงสิ่งก่อสร้างที่บรรจุของควรบูชา เป็นอนุสรณ์เตือนใจให้เกิดกุศลธรรม ดังนั้น ธัมเมกขสถูปสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้เห็นธรรมในวันอาฬาหบูชา คือ พระโกณฑัญญะ

​
Picture

4.สาลวโนยาน กุสินารา

​          สาลวโนทยาน กุสินารา หรือ กุศินคร เป็นสังเวชนียสถานแห่งที่ 4  ตั้งอยู่ เมืองกุสินคร ประเทศอินเดีย เมืองกุสินารา อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวา เป็นที่ตั้งของ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า มาถากุนวะระกาโกฏ ซึ่งแปลว่า ตำบลเจ้าชายสิ้นชีพ ปัจจุบันกุสินารามีอนุสรณ์สถานที่สำคัญคือสถูปใหญ่ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วิหารปรินิพพานซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน  พระพุทธรูปปางอนุฏฐิตไสยาสน์ มีพุทธลักษณะคือพระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวา  ศิลปะมถุรา มีอายุกว่า 1,500 ปี ในจารึกระบุผู้สร้างคือ หริพละสวามี โดยนายช่างชื่อ ทินะ ชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดา แสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานจากไปอย่างผู้หมดกังวลในโลก


​

          สำหรับท่านที่สนใจเดินทางตามรอยพระพุทธเจ้า สู่สังเวชนียสถาน สำคัญของพุทธศาสนิกชน โดยสายการบินภูฏานแอร์ไลน์ได้เห็นถึงความสำคัญของพุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมาก มีความประสงค์ที่จะเดินทางไปยัง พุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อเอื้ออำนวยในการเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งธรรมะ สายการบินภูฏานแอร์ไลน์จึงได้เปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพ-พุทธคยา ในช่วงเดือนธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ของทุกปี.

สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ เส้นทาง กรุงเทพ-พุทธคยา (บินตรง)
ตั้งแต่วันที่ 4 ธค 62 - 29 กพ 63 
บินเฉพาะวันพุธและวันเสาร์
ราคา 7,890บาท เที่ยวเดียว (ยังไม่รวมภาษี)
ราคา 14,400 บาท ไป-กลับ (รวมภาษี)

สอบถามและสำรองที่นั่ง โทร 02-630-4600 
Picture
0 Comments

แสวงบุญพุทธคยา ร่วมสาธยายพระไตรปิฎก

6/20/2019

0 Comments

 
Picture
      ในช่วงเวลาแห่งฤดูกาลแสวงบุญ เหล่านักบวชและพุทธศาสนนิกชนจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางไปสักการะพระพุทธเจ้า ยังดินแดนแห่งการตรัสรู้ ณ เมืองคยา ประเทศอินเดีย ที่สำคัญในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงานสาธยายพระไตรปิฎก ณ วัดพุทธคยา ประเทศอินเดีย ที่บรรดานักบวชและชาวพุทธจากทั่วโลกจะมารวมตัวกัน เพื่อสวดสาธยายธรรมะของพระพุทธองค์เป็นการสืบต่อพระศาสนา เหมือนดังที่พระพุทธองค์เคยตรัสกับพระอานนท์ว่า “ธรรมและวินัยที่ตถาคตตรัสไว้ดีแล้ว ธรรมเหล่านั้นจะเป็นศาสดาของพวกเธอ...”

       ในการสาธยายพระไตรปิฎก ณ พุทธคยา จะเป็นบทสวดภาษาบาลี ที่นักบวชจากนานาชาติต่างสาธยายธรรมะหมวดต่างๆสลับช่วงเวลากัน บ้างก็สวดมนต์ เดินจงกรม ปฏิบัติภาวนา ตามแต่สมควรในวาระต่างๆ แต่กลับดูไม่เห็นเป็นความต่าง แม้จีวรที่สวมใส่จะคนละสี คนละแบบ เสียงสวดภาวนาคนละสำเนียง ทำให้ประจักษ์ได้ว่า “พระธรรม” เป็นเครื่องสร้างความสามัคคีให้แก่ชาวพุทธ ทำให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้มาอย่างยาวนานตลอดกว่า 2,600 ปี

   พระไตรปิฎกหรือที่เรียกเป็นภาษาบาลีว่า ติปิฎกหรือเตปิฎก เป็นคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งตามความหมายแปลว่า ๓ คัมภีร์อันเป็นการรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นหมวดหมู่มิให้กระจัดกระจาย ไตรปิฎก หรือ ๓ ปิฎก หรือ ๓ คัมภีรนี้ ประกอบไปด้วย
๑. วินัยปิฎก ว่าด้วยวินัยหรือศีลของภิกษุ และภิกษุณี
๒. สุตตันตปิฎก หรือพระสูตรว่าด้วยพระธรรมเทศนาทั่วๆ ไป
๓. อภิธัมมปิฎก หรือ ธรรมะที่สำคัญการสาธยายพระไตรปิฎก
Picture
   การสาธยายพระไตรปิฎกเป็นเสมือนการเพิ่ม เติม เสริม กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นในพุทธวจน หรือคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้คนทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธได้รู้จักกัน ได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าธรรมะ เปิดโอกาสให้คนทั้งหลายแสดงออกซึ่งความสามัคคี ยกระดับให้พุทธบริษัท ทำความดีถวายพระพุทธเจ้า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
บุญกุศลแห่งการสาธยายพระไตรปิฎก นับว่ามีอานิสงส์สูงสุดหาประมาณมิได้ ก่อให้เกิดความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มีอายุยืนยาวด้วยสติปัญญารู้แจ้งในธรรมะสูงสุด อีกทั้งยังช่วยทำให้ผู้ร่วมสาธยายมีสุขภาพดี มีพัฒนาการทางจิตวิญญาณและช่วยให้แคล้วคลาดจากพิบัติภัยต่างๆ
​

  โดยสายการบินภูฏานแอร์ไลน์ได้เห็นถึงความสำคัญของพุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมาก มีความประสงค์ที่จะเดินทางไปยัง พุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อเอื้ออำนวยในการเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งธรรมะ สายการบินภูฏานแอร์ไลน์จึงได้เปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพ-พุทธคยา ในช่วงเดือนธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ของทุกปี 

สอบถามเพิ่มเติม หรือ สำรองที่นั่ง
โทร. 02-630-4600
จองออนไลน์ https://www.b3thailand.com/booking.html
Email : b3@omgexp.com
เริ่มวันที่ 4 ธ.ค. 62 - 29 ก.พ. 63
บินเฉพาะ วันพุธ และ วันเสาร์ ​
Picture
0 Comments

ครั้งหนึ่งในชีวิต เที่ยวภูฏาน ต้องเตรียมงบเท่าไหร่

5/24/2019

0 Comments

 
Picture
   คำถามยอดฮิตติดดาว “เที่ยวภูฏาน ต้องมีงบเท่าไหร่ถึงจะไปเที่ยวได้” หรือ “เที่ยวภูฏานราคาแพงไหม”  สำหรับใครที่กำลังคำนวนงบที่มีอยู่ในบัญชี เตรียมวางแผนจะไปเที่ยวภูฏานในช่วงเร็วๆ นี้ ภูฏานแอร์ไลน์มาคำนวณให้ทุกท่านได้กระจ่าง คิดไม่ยาก ง่ายนิดเดียว เพียงแค่รู้ว่า คุณจะไปเที่ยวภูฏาน “กี่วัน และ กี่คืน” คุณก็จะทราบราคาแพ็คเกจเบื้องต้นคร่าวๆ ได้เลย มาดูวิธีการคำนวณกัน…
​
1. ค่าทัวร์   การไปเที่ยวประเทศภูฏานแตกต่างจากการไปเที่ยวประเทศอื่น ชาวต่างชาติที่ต้องการท่องเที่ยวประเทศภูฏานจะต้องเสียค่าเหยียบแผ่นดินโดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดของค่าเหยียบแผ่นดินแพ็คเกจมาตรฐานจะเป็นแบบการเหมาจ่ายแบบต่อคืนต่อคน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เดินทาง ดังนี้
  • ค่าใช้จ่ายต่อคืนต่อท่าน ในการเดินทางช่วงเดือน มี.ค./เม.ย./พ.ค./ และ ก.ย./ต.ค./พ.ย. (ช่วง high season) คือ 250 USD หรือประมาณ 8,200 บาท/คืน/คน
  • ค่าใช้จ่ายต่อคืนต่อท่าน ในการเดินทางช่วงเดือน ธ.ค./ม.ค./ก.พ./ และ มิ.ย./ก.ค./ส.ค.  (ช่วง low season) คือ 200 USD หรือประมาณ 6,600 บาท/คืน/คน​​​ ​
ประเทศภูฏาน สถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละเมือง มีกิจกรรม และไฮไลท์ที่น่าสนใจอะไรบ้าง
สามารถดูรายละเอียดได้ คลิกเลย
คลิกเลย
Picture
2. ค่าตั๋วเครื่องบิน   สายการบินที่เดินทางเข้าประเทศภูฏานมีเพียง 2 สายการบินเท่านั้น คือ สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ และ สายการบินดรุ๊กแอร์ โดยค่าตั๋วทั้ง 2 สายการบินนั้นราคาเท่ากัน คือ
  • ที่นั่ง Economy Class ราคา 27,425 บาท ราคานี้ยังไม่รวมภาษีสนามบิน  
  • ที่นั่ง Business Class ราคา 31,015 บาท ราคานี้ยังไม่รวมภาษีสนามบิน  
​
Picture
3. ค่าทำวีซ่า    การดำเนินการทำวีซ่าเพื่อจะไปเที่ยวประเทศภูฏานจะต้องดำเนินการผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น!! ซึ่งเป็นนโนบายของประเทศภูฏาน เพื่อต้องการที่จะกรองนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องวีซ่า จะตกท่านละ 40 USD  หรือประมาณ 1,360 บาท โดยการยื่นทำวีซ่านั้นง่ายมากๆ แค่ผู้ที่เดินทาง ส่งแค่หน้าสแกนPassport หรือถ่ายรูปหน้า Passport ขอให้เห็นข้อความชัดเจน แค่นี้ก็สามารถยื่นขอวีซ่าได้แล้ว หากสงสัยขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า คลิ๊กเลย
​

Picture
4. ค่าพักเดี่ยว   หากต้องการพักเดี่ยวแบบคนเดียว ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้ใครมารบกวนเวลาพักผ่อนอันแสนสุขของเรา โดยทางโรงแรมสามารถจัดการให้ได้ และต้องบวกเพิ่มในราคา 40 USD หรือประมาณ 1,360 บาท /คืน/คน
​

Picture
5. ค่าบริการม้าและไม้ค้ำขึ้นวัดทักซัง    ในวันที่ขึ้นวัดทักซังหากต้องการใช้บริการม้าขึ้นวัดทักซัง โดยค่าบริการ ราคา 18 USD /คน เงินไทยประมาณ 600บาท และค่าเช่าไม้ค้ำจะตกอยู่ที่ 50 งูลตรัม(ค่าเงินภูฏาน) หรือประมาณ 25 บาท 

Picture

6. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าแพ็คเกจ
  • ปกติเที่ยวประเทศภูฏานทางบริษัททัวร์จะมีไกด์และคนขับรถให้บริการและค่อยดูแลตลอดการเดินทางเพื่อเป็นการขอบคุณในการเที่ยวครั้งนี้ เราสามารถตอบแทนด้วย ค่าทริปไกด์และคนขับรถ โดยจะแบ่งเป็น ค่าทริปไกด์ 3 USD/วัน/คน และค่าคนขับรถ 2 USD /วัน/คน
  • หากต้องการจะซื้อของฝากเพื่อกลับมาฝากคนสำคัญ ทางเราแนะนำอยู่ที่ ขั้นต่ำ 10,000 บาท ของฝากที่แนะนำจะเป็น น้ำผึ้งแท้ประเทศภูฏาน ที่เป็นสินค้า OGOP และผ้าทอพื้นเมือง หรือต้องการของฝากอย่างอื่นสามารถกดได้ที่ลิ้งค์นี้ ของฝากภูฏาน

   และทั้งหมดคืองบประมาณและค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวภูฏานทั้งทริป ช่วยทำให้คุณเห็นภาพว่าต้องวางแผนค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวอย่างไร ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าอาหาร ค่าโรงแรมและที่พัก และค่าเข้าชมสถานที่ ซึ่งไม่รวมค่าทิปไกด์ ทิปคนขับรถ ค่าขี่ม้าขึ้นวัดทักซัง ค่าใช้จ่าย  ส่วนตัว ซื้อของฝาก และอื่นๆ หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด จ่ายทีเดียวจบ ครบทุกอย่าง ไม่ต้องติดต่อเรื่องทัวร์ วีซ่า และโรงแรมให้สับสนและยุ่งยาก ทางเราแนะนำว่า การจองกับบริษัททัวร์ จึงเป็นทางออกที่ดี จ่ายค่าแพ็คเกจทั้งหมดแล้วนับเวลาถอยหลังรอเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งความสุขแห่งนี้ได้เลย
เที่ยวภูฏานทั้งที แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละเมือง กิจกรรม และวัฒนธรรมที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง
สามารถดูรายละเอียดได้ คลิกเลย
คลิกเลย
0 Comments

เอกสารสำคัญ ที่ใช้ในการเดินทางไปภูฏาน

4/25/2019

0 Comments

 
Picture

  การเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศภูฏานนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อตั๋วเครื่องบินก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้เหมือนกับประเทศอื่นๆ เพราะภูฏานเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากทางรัฐบาลของประเทศภูฏานมีโนบายในการดูแลนักท่องเที่ยว โดยให้นักท่องเที่ยวเดินทางกับ บริษัททัวร์ หรือได้รับการเชิญจากรัฐบาลภูฏานเท่านั้น

 ประเทศภูฏานไม่ได้มีนโยบายในการจำกัดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของสภาพอากาศที่สามารถทำการบินได้เพียงบางช่วงเวลา อีกทั้งมีเพียง 2 สายการบินที่ทำการบินไปยังประเทศภูฏาน และมีเที่ยวบินเพียงวันละ 1 เที่ยวบินต่อสายการบินเท่านั้น นอกจากนี้รัฐบาลของภูฏานมีนโยบายในการเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดินจากนักท่องเที่ยว เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปใช้ในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว และพัฒนาประเทศ

 สำหรับขั้นตอนการขอวีซ่าจะดำเนินการโดยบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องในภูฏานหรือบริษัทนำเที่ยวที่อยู่ในประเทศของท่านเท่านั้น เอกสารที่ใช้ยื่นในการขอวีซ่ามีเพียงแค่สำเนาหนังสือเดินทาง ตั๋วโดยสาร และเอกสารยันยืนการจองทัวร์  เมื่อวีซ่าได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว เอกสารจะอยู่ในรูปแบบ e-Visa ต้องใช้สำหรับการ Check in ด้วย หากมีเอกสารไม่ครบ ทางสายการบินจะปฏิเสธการเดินทางไปยังประเทศภูฏานทันที วีซ่านั้นจะถูกประทับลงบนหนังสือเดินทางของท่านเมื่อท่านผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองที่ภูฏาน ดังนั้น โปรดแสดงวีซ่าที่ท่านได้รับต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง

   ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศภูฏานได้นั้น ต้องมีเอกสารสำคัญที่ใช้ในการเดินทาง ตามตัวอย่างด้านล่างนี้ที่ทางเรานำมาให้ทุกท่านได้ชม
​

E-Ticket

Picture
    E-Ticket Airlines ยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน ที่ระบุ ชื่อผู้โดยสาร, วันเดินทาง และรายละเอียดที่ถูกต้อง เพื่อใช้ออก Boarding pass ในการขึ้นเครื่องบิน
​

Visa

Picture
    Visa ที่ได้รับการอนุมัติโดยรัฐบาลของภูฏาน โดยเอกสารจะอยู่ในรูปแบบ e-Visa ที่ระบุ ชื่อผู้เดินทาง, Visa number, ไกด์ที่ดูแล, ชื่อโรงแรมในแต่ละเมือง และเงื่อนไขการเข้าประเทศ หรือ Visa ที่เชิญเข้าประเทศ และเอกสารยืนยันที่เกี่ยวข้อง

Passport

Picture
    Passport ตัวจริงที่ใช้แนบเอกสารในการยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้เดินทางต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแล


Picture
เส้นทางกรุงเทพ - พาโร (ภูฏาน)
ราคาเพียง 27,425 บาท/ท่าน ไป-กลับ *ยังไม่รวมภาษี
เดินทางทุกวัน จากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
สอบถามและสำรองที่นั่ง โทร 02-630-4600 ​

0 Comments

เที่ยวภูฏาน ไหว้พระขอพร ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน

1/31/2019

0 Comments

 
Picture
               เดือนแรกของปี 62 ผ่านไปไม่นาน ก้าวไปกันต่อในเดือนกุมภาพันธ์ที่ใกล้กับช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันมาฆบูชาเข้ามาทุกที วันลาก็ดี วันหยุดชดเชยที่มี หรือปีเกิดของใครเป็นปีชงก็เหมาะกับการไปเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการแสวงบุญ เพื่อไหว้พระขอพร เสริมโชคลาภ สร้างบุญบารมี และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง หากคุณยังไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน เราขอแนะนำสำหรับคนสายแสวงบุญที่ชอบบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติอย่างคุณไปไหว้พระที่ประเทศภูฏานกัน
​

สำหรับวัดที่เราจะแนะนำให้ทุกท่านไปสักการะสักครั้งเมื่อมาถึงภูฏาน
​จะเป็นวัดอะไรนั้น ลองไปดูกันค่ะ!!

Picture

     วัดที่ 1 : วัดคิชู ลาคัง  วัดเก่าแก่ที่สุดของภูฏาน เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่ศักสิทธิ์

               เป็น 1 ใน 108 วัด ที่พระเจ้าซังเซน กัมโป สร้างขึ้นตามความเชื่อว่าต้องสร้างวัดทั้งหมด 108 แห่งเพื่อตรึงนางยักษ์ที่นอนพาดเทือกเขาหิมาลัยไว้ ซึ่งวัดคิชูเป็นส่วนที่ตรึงเท้าซ้ายของนางยักษ์ วัดคิชูประกอบด้วยโบสถ์ 2 หลัง ประดิษฐานรูปสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรพันเนตร    มีรูปปั้นท่านคุรุรินโปเชสูง 5 เมตร ผนังด้านในวัดมีภาพท้าวจตุโลกบาล และเทพเก็นเย็น โดร์จีดราดุล เทพในคติพื้นบ้านของชาวภูฏาน และยังมีจิตรกรรมภาพบุคคลสําคัญ คือ ท่านคุรุรินโปเช ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล พระเจ้าซังเซน กัมโป พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เทพธิดาแห่งเทือกเขาหิมาลัย ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโจโว หนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของภูฏานอีกด้วย

Picture

          วัดที่ 2 : วัดชิมิ ลาคัง  ขอพรให้สมหวังเรื่องคู่ครองและตั้งครรภ์ เสริมสร้างความเป็นสิริมงคล

               วัดชิมิตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างเพื่อถวายแด่ท่านดรุกปา คิลเลย์ ตามตำนานเล่าว่า ท่านดรุกปา คิลเลย์ ไล่ล่าอสูรมาจนถึงเมืองพูนาคาและเมืองวังดี อสูรตนนั้นได้แปลงกลายเป็นสุนัข ท่านดรุกปา คิลเลย์ปราบอสูรตนนั้นและเผาบนพื้นดินบนเนินแห่งนี้ แล้วท่านก็ได้ทำนายว่า ในอนาคตจะมีการสร้างวัดขึ้นที่นี่ จึงเป็นที่มาของชื่อวัด “ชิมิ” แปลว่า ไม่มีสุนัข คนภูฏานเชื่อว่าหากไม่สมหวังเรื่องคู่ครอง จะต้องมาแสวงบุญที่นี่ วัดแห่งนี้ ยังมีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องการมาขอพรให้ตั้งครรภ์มีลูกด้วย ชาวภูฏานเชื่อว่าเมื่อมีลูกเกิดได้ 3 วัน ให้มาขอพรและขอชื่อจากวัดนี้จะเป็นสิริมงคล   ชื่อที่จะได้รับส่วนใหญ่ คือ คิลเลย์ หรือ ชิมิ

Picture

          วัดที่ 3 : องค์หลวงพ่อสัจธรรม  พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูฏาน ตั้งอยู่จุดที่สูงที่สุดในโลก

               พระศรีศากยมุนีที่หล่อด้วยสัมฤทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูฏาน หลวงพ่อสัจจธรรมมีความสูง 169 ฟุต โครงสร้างของพระพุทธรูปสร้างอย่างประณีต และถือเป็นพระพุทธรูปผลงานชิ้นเอกที่ประดิษฐานที้่เมืองทิมพูซึ่งตั้งอยู่จุดที่สุดในโลกอีกด้วย เพื่อปกปักรักษาชาวทิมพู  รัฐบาลภูฏานได้รับความร่วมมือด้านเงินทุนจากเศรษฐีชาวสิงคโปร์ สร้างโดยช่างฝีมือชาวไทย เฉพาะองค์พระพุทธรูป ใช้เงินทุนสร้าง 47 ล้านเหรียญดอลลาร์ ภายในบรรจุพระพุทธรูปขนาดเล็กกว่า 1,000 องค์ บริเวณฐานพระพุทธรูปเป็นห้องโถงสำหรับการทำสมาธิ จากจุดนี้สามารถมองลงไปเห็นทิวทัศน์ของเมืองทิมพูได้

Picture

     วัดที่ 4 : วัดทักซัง  ครั้งหนึ่งในชีวิตควรมาแสวงบุญ เสริมความเป็นสิริมงคลและความเจริญก้าวหน้าของชีวิต

               เป็น 1 ในวัดที่สวยและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกที่ทุกคนต้องมาเมื่อมาเที่ยวภูฏาน มีตํานานเล่าว่า ท่านคุรุรินโปเชได้ขี่นางเสือที่เป็นศักติของท่านแปลงกายมา เหาะมายังที่แห่งนี้และบําเพ็ญสมาธิอยู่ในถ้ำรังเสือนาน 3 เดือน เทศนาสั่งสอนผู้คนและสําแดงกายสะกดภูติผีปีศาจร้าย   วัดทักซัง จึงเป็นที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า รังเสือ หรือ วัดถ้ำเสือ (Tiger Nest) ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตร ซึ่งมีทัศนียภาพที่น่าตื่นตาอย่างยิ่ง

               ประเทศภูฏาน มีศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ ชาวภูฏานมีความผูกพันกับศาสนาตั้งแต่เกิดจนตลอดช่วงชีวิต สถานที่ท่องเที่ยวหลักจึงเป็นวัดเป็นแบบพุทธวัชรยาน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เก่าแก่ และมีเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติทีเป็นภูเขาตามแนวเทือกเขาหิมาลัย นอกจากเราจะได้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้ความประทับใจในบรรยากาศรอบๆ วัดกลับบ้านไปอีกด้วย

0 Comments

วิธีมัดใจ “กลุ่มลูกค้าแสวงบุญ” ในโลกออนไลน์

1/9/2019

0 Comments

 
Picture

     ในบล็อคนี้เราจะมาพูดถึงการทำการตลาดออนไลน์กันค่ะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้ สื่อออนไลน์ เป็นสื่อที่เข้าถึงคนในสังคมได้เร็วที่สุด มากที่สุด และมีอิทธิพลสูงสุด เพราะฉะนั้นเราจึงไม่สามารถขายทัวร์ในรูปแบบเดิมๆได้ เช่นขายทัวร์ผ่านหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร  แต่เราต้องทำการขาย ทำการขยายตลาด ให้ทันโลก ทันกระแส แล้วมีช่องทางไหนบ้างที่เราสามารถขายทัวร์เพื่อมัดใจ“กลุ่มลูกค้าแสวงบุญ” ในโลกออนไลน์ได้ เรามาดูกันเลยค่ะ

1. ผ่าน Facebook / Instagram / Google  
   ช่วงเวลานี้ ร้อยละ90ของลูกค้า เมื่ออยากได้ข้อมูลอะไร ก็จะถาม กูเกิ้ลเป็นลำดับแรก เมื่อมีเวลาว่างๆก็จะเข้า Facebook
 / Instagram เพื่อดูความเคลื่อนไหวของเพื่อน พี่น้อง ดารา หรือ หาข่าวสารใหม่ๆ และสิ่งสำคัญ ลูกค้าสามารถเห็นโฆษณาทัวร์แสวงบุญของบริษัทเราได้ผ่าน Facebook เมื่อเห็นสถานที่ต่างๆที่พุทธคยาแล้วก็จะเกิดความรู้สึกอยากไป นี่จึงเป็นช่องทางของบริษัททัวร์ของเราเพื่อจะเสนอขายให้ลูกค้าได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วที่สุด การทำโฆษณาผ่าน Facebook / Google จึงเป็นวิธีสำคัญ ได้มัดใจลูกค้าและทำให้ได้กลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นค่ะ

2. ผ่าน YouTube  
   หากบริษัททัวร์ของเรา สามารถอัดวีดีโอ ทริปแสวงบุญของลูกค้าที่เคยไปมาแล้ว แล้วถ่ายทอดบนยูทูป รวมถึงคลิปความรู้สึกสั้นๆของการใช้บริการกับบริษัทของเราว่าประทับใจอย่างไรบ้าง เมื่อมีคนเข้ามาเห็นก็จะทำให้เกิดความสนใจและต้องการที่จะไปแล้วในที่สุดพวกเขาก็จะติดต่อมายังบริษัททัวร์ของเราและเราก็สามารถปิดการขายได้สำเร็จ บางครั้งการที่พวกเขาได้เห็นสถานที่จริงถ่ายทอดผ่านทางภาพเคลื่อนไหวอาจจะทำให้พวกเขานึกภาพออกและเป็นแรงจูงใจให้พวกเขาอยากไปเยือนสถานที่จริงสักครั้งในชีวิต


3. ผ่าน website 
   บริษัททัวร์ควรมีเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มีโปรแกรมทัวร์ ราคา คำอธิบาย ที่ชัดเจน และมีการรีวิวของลูกค้าที่เคยไปมาแล้วเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า


4. ผ่าน E-mail 
   การส่ง Newsletter ข่าวสารต่างๆ เช่น โปรแกรมทัวร์ โปรโมชั่น ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นบ่อยๆ เมื่อพวกเขาสนใจก็จะติดต่อบริษัทเราเข้ามา

5. ผ่านแอพลิเคชั่น LINE 
  LINE สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในจำนวนมาก ส่งโปรแกรมทัวร์ โปรโมชั่น หรือขายทัวร์ผ่านไลน์ถือว่าเป็นช่องทางยอดฮิตในปัจจุบันนี้ การสมัคร Line@ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งสำรับบริษัททัวร์เพื่อขยายการตลาดและเพื่มยอดขายได้อย่างรวดเร็ว


6. ผ่านมือถือ 
   การส่ง sms เสนอโปรแกรมทัวร์ เสนอขาย ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากปัจจุบันมือถือ ถือว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตไปแล้ว จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

  สื่อออนไลน์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากต้องการ มัดใจลููกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายนะคะ หากคุณไม่เคยทำการตลาดในรูปแบบต่างๆตามที่ได้แนะนำมา ลองใช้วิธีเหล่านี้เพิ่มเติมดู เชื่อเลยว่า คุณจะได้ลูกค้าเพิ่มอย่างแน่นอน
​

สำรองที่นั่ง สายการบินภูฏานแอร์ไลน์
เส้นทาง กรุงเทพฯ - พุทธคยา (เริ่มเดินทาง 4 ธ.ค. 62 - 29 ก.พ. 63)
โทร. 02-630-4600
Email : b3@omgexp.com
Picture
0 Comments

5 ธันวา วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ

12/4/2018

0 Comments

 
Picture


​           “วันชาติ"  โดยทั่วไปมักจะหมายถึง วันเฉลิมฉลองที่ประเทศนั้นๆ ได้รับอิสรภาพ เป็นเอกราช หรือเป็นวันสถาปนาประเทศ รัฐ ราชวงศ์ วันพระราชสมภพของกษัตริย์ วันเกิดประมุขของรัฐ หรืออาจจะเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ แต่มักจะถือเป็นวันหยุดประจำของชาติ ซึ่ง“วันชาติ” ของแต่ละประเทศจะเป็นวันใด ก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดของประเทศนั้นๆ

​           ความเป็นมาของวันชาติไทย แต่เดิมกำหนดให้เป็นวันที่ 24 มิถุนายน เพราะเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งวันชาติของไทยนั้นอยู่มานานถึง 21 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้ถือวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ เป็น “วันชาติ" มาจนถึงปัจจุบัน

​     วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี จะเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และเป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งมีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2523 เนื่องจากพ่อเป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัว ดังนั้นจึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จัดตั้งเป็น “วันพ่อแห่งชาติ”

​        สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (รัชกาลที่ 10) โปรดเกล้าฯ ให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ (ประเทศไทย) เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทัย และพระสติปัญญาของพระองค์ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันยังประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรของพระองค์มาโดยตลอด


​
0 Comments

4วิธีมัดใจ กลุ่มลูกค้า"แสวงบุญ"

11/28/2018

0 Comments

 
Picture

“กลุ่มลูกค้าแสวงบุญ” คือ กลุ่มลูกค้าที่เราสามารถขายทัวร์ได้เรื่อยๆ เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไปสถานที่เดิมๆซ้ำๆ ได้บ่อยๆ และยังเป็นกลุ่มที่เราสามารถจัดทำเป็นหมู่คณะได้ในจำนวนครั้งละมากๆ เพราะจุดหมายในการเดินทางคือเพื่อแสวงบุญ แต่ปัจจุบันบริษัททัวร์ที่ขายเส้นทางนี้ก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยปัจจัยมากมายที่ทำให้เรามีคู่แข่งทางการตลาดค่อนข้างเยอะ แต่เราจะทำอย่างไรให้บริษัทเรา “มัดใจ กลุ่มลูกค้าแสวงบุญ”    กลุ่มนี้ให้ใช้บริการแต่บริษัทเราเจ้าเดียวเท่านั้น!

1. ที่นั่งคอนเฟิร์ม พร้อมขาย
- มีหลายบริษัทที่ทำการขายทัวร์ลูกค้าก่อนแล้วมาจองที่นั่งภายหลัง การทำแบบนี้ถือว่าเป็นการเสี่ยงและสร้างความไม่น่าเชื่อถือให้ลูกค้า เพราะหากไม่มีที่นั่งแล้ว บริษัททัวร์จำเป็นต้องคืนเงินให้ลูกค้าและยากมากที่ลูกค้าจะกลับมาใช้บริการบริษัทของเราใหม่
- บริษัททัวร์จึงควรมีที่นั่งคอนเฟิร์มพร้อมขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า

2. การบริการหลังการขาย
- ติดตามลูกค้าและแจ้งข้อมูลเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง
- คอยสอบถามลูกค้า เผื่อใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติม
- นัดเวลาเจอที่สนามบิน
- ของเล็กๆน้อยๆที่จะมอบให้ลูกค้า ให้ดูว่าทางบริษัทเราใส่ใจลูกค้ามากขึ้น เช่น การไปแสวงบุญสิ่งที่สำคัญ คือ ทิชชู่ ไฟฉาย บริษัททัวร์อาจจะมีการแจก ไฟฉายอันเล็กๆให้คณะ คนละ 1 อัน เป็นต้น
- โทรสอบถามความพึงพอใจหลังจบทริป จริงๆ ข้อนี้หลายบริษัทอาจจะมองข้ามไป พอขายจบก็ปล่อยผ่าน ซึ่งจริงๆ ทางบริษัทควรติดตามผล   เพื่อนำมาปรับปรุงหรือหากลูกค้ามีคำชมกลับมา ทางบริษัทจะได้เสนอการขายอีกครั้งง่ายขึ้น

3. หัวหน้าทัวร์ (ผู้ชี้ชะตา วัดดวงลูกค้าจะกลับมาใช้บริการอีกหรือไม่)
การเดินทางกับบริษัททัวร์ หัวหน้าทัวร์ หรือผู้ดูแล ลูกทัวร์ สำคัญมากๆ ส่วนมากบริษัททัวร์เปิดการเส้นทางแสวงบุญ ก็จะเปิดทุกปี จะดีแค่ไหน หากเรามีหัวหน้าทัวร์ที่ดี เข้าใจลูกค้า
- คอยดูแลไม่ขาดสาย เช่น ไม่ปล่อยให้ลูกค้าหิว หรือเหนื่อยจนเกินไป คอยแวะพักเรื่อยๆเนื่องจากทัวร์แสวงบุญ ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะเป็นผู้สูงอายุ จึงต้องคอยดูแลเป็นพิเศษ
และเมื่อลูกค้าพึงพอใจ ประทับใจ กับการเดินทางไปแสวงบุญกับบริษัทของเรา สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทเราก็คือ..
- การบอกต่อ (word of mouth) นอกจากลูกค้าที่เคยไปแล้วยังอยากจะกลับไปกับเราอีก พวกเขายังจะชวนเพื่อน พี่ น้อง ไปด้วย เพิ่มยอดขายให้ทางบริษัทเราโดยไม่ต้องโปรโมทอะไรเลย
- การใช้บริการกับบริษัทเราในทุกเส้นทาง จะดีแค่ไหน หากลูกค้าที่ใช้บริการเรา ถูกใจในการบริการและพร้อมที่จะเดินทางกับบริษัททัวร์ของเราเท่านั้น ในทุกๆเส้นทาง

4. การทำการตลาด
การขายทัวร์ การส่งข่าวสารแจ้งให้ลูกค้าทราบ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เราควรทำการตลาดทั้ง 2 ส่วน 1.ออนไลน์ 2.ออฟไลน์ เนื้อหาในบล็อคนี้ได้กล่าวถึงการทำการตลาด(วิธีมัดใจลูกค้า)ส่วนออฟไลน์ไปแล้ว แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อมัดใจลูกค้าในส่วนของการตลาดออนไลน์ที่ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก

(โปรดติดตามในบล็อคหน้า)
หลังจากอ่านบล็อคนี้จบแล้ว ลองนำคำแนะนำไปปรับใช้กับบริษัททัวร์ของท่าน เพื่อมัดใจลูกค้า ให้มีคณะเดินทางไปแสวงบุญที่พุทธคยามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วอย่าลืม บินตรงไปพุทธคยากับสายการบินภูฏานนะคะ

สำรองที่นั่ง สายการบินภูฏานแอร์ไลน์
เส้นทาง กรุงเทพ-พุทธคยา  (4 ธ.ค. 62 - 29 ก.พ. 63)
โทร 02-630-4600 หรือ Email : b3@omgexp.com
>> คลิกเพื่อสำรองที่นั่ง
Picture
0 Comments
<<Previous
Forward>>

    RSS Feed

Bhutan Airlines Thailand - GSA, OMG Experience Co., Ltd.
  • หน้าแรก
  • สำรองที่นั่ง
  • พุทธคยา
  • ภูฏาน
  • บล็อก
  • ติดต่อเรา