• หน้าแรก
  • สำรองที่นั่ง
  • พุทธคยา
  • ภูฏาน
  • บล็อก
  • ติดต่อเรา
ภูฏานแอร์ไลน์บินตรงสู่พุทธคยา
  • หน้าแรก
  • สำรองที่นั่ง
  • พุทธคยา
  • ภูฏาน
  • บล็อก
  • ติดต่อเรา
ติดต่อเรา 026304600

5 ภาพดีๆ ที่ต้องกดชัตเตอร์ทุกครั้งเมื่อเยือนภูฏาน

11/25/2019

0 Comments

 
Picture
   การท่องเที่ยวกับการถ่ายภาพเป็นสิ่งคู่กัน นอกจากจะเก็บภาพเป็นความทรงจำแล้ว ภาพถ่ายยังสามารถถ่ายทอดออกไปให้ผู้อื่นได้สัมผัสความประทับใจของคุณมากกว่าคำบอกเล่า สำหรับประเทศภูฏาน คุณสามารถเก็บภาพสวยๆ ได้จากหลากหลายสถานที่ที่คุณไปเยือน และในหลายเหตุการณ์ นอกจากธรรมชาติที่มีความงามตามฤดูกาลและเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสัน วัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนก็ล้วนมีเสน่ห์และน่าสนใจทีเดียว 5 ภาพที่ภูฏานเซ็นเตอร์อยากแนะนำให้ทุกท่านกดชัตเตอร์ทุกครั้งเมื่อมาเยือนภูฏาน

ภาพที่ 1 สีสันสถาปัตยกรรมของภูฏาน

Picture
   ไม่ว่าที่ใดๆ ในโลก สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนทำให้บรรยากาศรอบตัวคุณอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประเทศนั้น สถาปัตยกรรมภูฏานที่โดดเด่นคือป้อมปราการ หรือที่เรียกว่า “ซอง” เมื่อมาเที่ยวภูฏานหากไม่ได้ถ่ายรูปโดยมีป้อมปราการอันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลัง เหมือนมาไม่ถึงภูฏาน บ้านเรือนของชาวภูฏานก็เช่นกัน รัฐบาลออกกฎหมายให้ก่อสร้างในรูปแบบภูฏานดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นสีที่ใช้ ลักษณะประตูหน้าต่าง ความสูงของอาคาร และลวดลาย

ภาพที่ 2 จุดชมวิวเห็นทั่วอาณาจักรของภูฏาน

Picture
   จุดชมวิวซังเกกัง (SANGAY GANG VIEWPOINT)  จุดชมวิวซังเกกังเป็นจุดชมวิวเมืองหลวงทิมพู ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เมื่อมองลงไป คุณจะเห็นภาพสิ่งก่อสร้างถูกล้อมรอบด้วยภูเขาเป็นเหมือนอาณาจักรเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ ด้วยกฎหมายของประเทศเรื่องการสร้างอาคารให้มีลักษณะความเป็นภูฏาน ลายขอบวงหน้าต่าง ลักษณะหลังคา สีสัน รวมไปถึงการกำหนดความสูงของตึก ไม่ให้สร้างตึกสูงที่บดบังทัศนียภาพ ทำให้วิวของเมืองต่างๆ แม้แต่เมืองหลวง เมื่อมองจากมุมสูง มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ของภูฏานจริงๆ เมื่อรวมกับภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ บางทีคุณอาจจะอยากนั่งที่จุดชมวิวนี้และทอดสายตาไปยาวๆ ทั้งวันเลยก็ได้ 
Picture
   จุดชมวิวโดชูล่าพาส (Dochula Pass)  แน่นอนว่าเมื่อไปถึงจุดนั้น คุณจะได้พบกับภาพเบื้องหน้าที่ตื่นตา ซึ่งจัดมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพโดยเฉพาะ สิ่งที่นักท่องเที่ยวรอคอยจะได้พบเมื่อมายังดินแดนแห่งนี้ คือ หิมาลัย และโดชูล่าพาสไม่ทำให้ผิดหวัง ที่นี่ตั้งอยู่สูง 3,150 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยปกติจะมีกลุ่มเมฆสีขาวปกคลุม บนเนินสูงสุดมีสถูปทรงสี่เหลี่ยมหลังคาครอบแบบภูฏาน สถูปขนาดใหญ่อยู่บนสุด และมี 108 สถูปอยู่ล้อมรอบ เรียกว่า สถูปแห่งชัยชนะ ที่นี่เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามระหว่างภูฏานกับกลุ่มกบฏอินเดียเมื่อปี 2003 สร้างขึ้นโดยเชื่อว่าจะช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ที่เดินทางผ่านไปมาให้ปลอดภัย รอบๆ บริเวณจุดชมวิว ประดับด้วยธงมนต์หลากสีเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งป่าเขาให้ปัดเป่าความชั่วร้าย ที่นี่ยังเป็นจุดพักสำหรับผู้เดินทางไปเมืองพูนาคา โดยมีร้านคาเฟ่บริการกาแฟร้อนๆ ด้วย
Picture
   จุดชมวิวชีเลล่าพาส (Chele La Pass)  เป็นหนึ่งจุดชมวิวสูงที่สุดของ เมืองฮา (Haa) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ถัดจากเมืองพาโร ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงและปกคลุมเต็มไปด้วยป่าไม้ จุดชมวิวนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกือบ 4,000 เมตร ที่นี่จะทำให้คุณได้กดชัตเตอร์เพลินจนลืมเวลาเลยทีเดียว กุหลาบพันปีและฝูงจามรีเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่คุณจะพบได้จากชีเลล่าพาส

ภาพที่ 3 นกกระเรียนคอดำและแหล่งอาศัย

Picture
   ช่างภาพที่ชื่นชอบการถ่ายภาพสัตว์ หรือนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการชมสัตว์ป่า ประเทศภูฏานเป็นประเทศที่อุดมด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์ มีความสมบูรณ์เพียงพอที่จะเป็นแหล่งที่อยู่หรือแหล่งอพยพของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ และสัตว์บางชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี      นกกระเรียนคอดำจะอพยพจากทิเบตมายังหุบเขาผอบจิกะของภูฏาน นกกระเรียนหายากเป็นสิ่งดึงดูดให้ช่างภาพจากทั่วโลกอยากจะได้มาชมนกกระเรียนท่ามกลางหุบเขาอันสวยงาม นอกจากจะได้ถ่ายภาพนกแล้ว นกกระเรียนคอดำยังมีความสำคัญกับดินแดนแห่งนี้มาตั้งแต่สมัยอดีต จึงมีเทศกาลนกกระเรียนคอดำ การร่ายรำ เฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้ถ่ายภาพวัฒนธรรมเหล่านี้อีกด้วย

ภาพที่ 4 เทศกาลระบำหน้ากากที่สืบทอดมาช้านาน

Picture
   สำหรับผู้รักการถ่ายภาพ สีสันตระการตา ศิลปะบนหน้ากากที่เป็นเอกลักษณ์ ท่วงท่าการร่ายรำ บรรยากาศแห่งวัฒนธรรม ช่วงเวลารอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คน คือความน่าสนใจที่ช่างภาพต่างตื่นเต้นที่จะได้เก็บภาพวินาทีเหล่านั้น เทศกาลระบำหน้ากากเซชูเป็นความพิเศษของดินแดนลับแลแห่งนี้ ถ้าท่านได้เข้าร่วมสักครั้งจะพบว่ามีช่างภาพมาจากทั่วโลกพร้อมกับกล้องและเลนส์คู่ใจ แม้คุณจะไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ ภาพถ่ายที่ได้จากเทศกาลระบำหน้ากากจะทำให้คุณจดจำประสบการณ์ที่อัศจรรย์ และเชื่อว่าใครๆ จะต้องประทับใจกับภาพถ่ายของคุณ

ภาพที่ 5 บรรยากาศแห่งวัฒนธรรมภูฏาน

Picture
   สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพผู้คน ชาวภูฏานเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมาก ถ้าคุณหยิบกล้องตัวโปรดขึ้นมาแล้วมองพวกเขาผ่านเลนส์ของคุณ รับรองว่าจะต้องได้รับรอยยิ้มกลับมาเป็นภาพสวยๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเด็กน้อยที่นั่น แก้มแดงระเรื่อเหมือนลูกมะเขือเทศแบบชาวหิมาลัยที่อาศัยอยู่ในภูมิประเทศอากาศหนาว เป็นที่ถูกใจช่างภาพและนักท่องเที่ยวเอามากๆ การดำเนินชีวิตของชาวภูฏานผูกพันกับธรรมชาติ และชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม อยู่กันอย่างพอเพียงและสมถะ คุณจะเห็นภาพชาวบ้านกำลังเก็บเกี่ยวข้าว เลี้ยงสัตว์ หรือไม่ก็สวดมนต์ หมุนกงล้อมนตรา กราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ ศาสนาพุทธแทรกซึมอยู่ตลอดในชีวิตประจำวันของพวกเขา ภาพถ่ายผู้คน วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชาวภูฏานจะสะท้อนศรัทธาในศาสนาและวิถีธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณอยากได้ภาพถ่ายแนวนี้ ประเทศภูฏานก็เป็นอีกดินแดนหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการมาท่องเที่ยวและถ่ายภาพทีเดียว
0 Comments

10 สิ่ง ที่ไม่ควรลืมเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

11/8/2019

0 Comments

 
Picture
   ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศสิ่งสำคัญนั่นคือการเตรียมความพร้อมไว้ก่อน เพื่อจะได้ไม่ลืมของสำคัญและเดินทางได้อย่างสบายใจ ​เราจะมา Check List 10 Items ที่ไม่ควรลืมเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศกันว่ามีอะไรบ้าง
Picture
1. หนังสือเดินทาง
​ 
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ ควรพกติดตัวไว้ตลอดเวลา ทังนี้ยังมีเอกสารสำคัญอื่น ๆ ที่ไม่ควรลืม เช่น บัตรประชาชน, ตั๋วเครื่องบิน, เอกสารการจองโรงแรม เป็นต้น เราขอแนะนำว่าควรถ่ายสำเนา หรือถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย เพื่อป้องกันการสูญหาย และในกรณีฉุกเฉินจะได้ไม่ลำบากนะคะ
Picture
2. สมาร์ทโฟน
 
ถือได้ว่าเป็นไอเท็มที่สำคัญสำหรับนักเดินทาง เพราะในปัจจุบันไม่ว่าจะจองตั๋ว จองโรงแรม หรือจองทัวร์ ก็จะใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึงการเสิร์จหาข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินทาง และถ้าเป็นโทรศัพท์ที่มาพร้อมกับกล้องคุณภาพสูงก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องพกกล้องถ่ายรูปไปด้วย เรียกได้ว่าเครื่องเดียวจบครบทุกอย่าง
Picture
3. กล้องถ่ายรูป
​  
เดินทางทั้งทีเราก็ควรจะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก กับการเก็บภาพประสบการณ์ดีๆในการเดินทาง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และวิวทิวทัศน์สวยๆ รวมไปถึงช่วงเวลาดีๆของคุณตลอดการเดินทาง
Picture
4. ยาประจำตัว
​ 
ในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเราแนะนำว่าควรจะพกยาสามัญไปด้วย เพราะด้วยสภาพอากาศที่แตกต่างอาจทำให้ป่วยได้ง่าย ยาที่ควรพกติดไป เช่น ยาพารา ยาแก้แพ้ ยาแก้เมารถ ยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น และหากมีโรคประจำตัวก็อย่าลืมพกยาไปด้วยนะคะ
**เนื่องจากในต่างประเทศจะไม่สามารถซื้อยาได้หากไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์
Picture
5. เงิน
​  
การเดินทางไปต่างประเทศไม่ควรลืมที่จะเช็คค่าเงินของประเทศนั้น และแลกเงินสดติดตัวไป เพื่อให้สะดวกในการใช้จ่าย เช่น ค่าอาหาร ค่ารถ หรือซื้อของใช้จำเป็น เป็นต้น 
Picture
6. บัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต
 
เมื่อไปต่างประเทศจะเป็นการเสี่ยงเกินไปหากคุณพกเงินสดไปเยอะๆ ควรพกบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิตติดไปด้วย อีกทั้งเพื่อกรณีฉุกเฉินคุณก็จะมีบัตรเป็นตัวสำรองให้คุณในการใช้จ่าย
**การใช้บัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ในการรูดใช้จ่าย หรือ กดเงินสดอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของบัตรกำหนด
Picture
7. หัวแปลงปลั๊ก
​  
แต่ละประเทศจะมีการใช้หัวปลั๊กที่ต่างกัน อย่าลืมเช็คให้ดีนะคะ และนักเดินทางทุกท่านควรเตรียมปลั๊กที่สามารถใช้ได้กับทุกประเทศติดไปด้วย เพราะไม่เช่นนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณแบกไปก็จะไม่สามารถใช้ได้
Picture
8. รองเท้า
​ 
ควรเลือกใส่รองเท้าให้เหมาะสม เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางได้อย่างคล่องตัว แนะนำให้นักเดินทางใส่รองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าผ้าใบเพื่อความทะมัดทะแมง และทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างไร้กังวล
Picture
Picture
9. แอพพลิเคชั่นท่องเที่ยวต่างๆ
 
ที่เราควรโหลดติดมือถือเอาไว้ เช่น Translate, Weather, Currency, Map เป็นต้น เพื่อให้การเดินทางของคุณสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ควรพลาดที่จะโหลดแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ติดมือถือเอาไว้
10. ​แผนที่
​  
เราแนะนำว่าควรพกแผนที่ติดตัวไปด้วย เพื่อที่ท่านจะได้ไม่พลาดเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆของประเทศนั้นๆ หรือหากหลงทางแผนที่ก็เป็นตัวช่วยที่ดีให้คุณ หรือเพื่อให้ง่ายขึ้นก็ไม่ควรลืมที่จะโหลด Google map หรือแอพพลิเคชั่นอื่นๆที่ช่วยนำทางหรือแนะนำสถานทีท่องเที่ยวดีๆให้คุณได้
และนี่คือ 10 Items ที่ควรเตรียมพร้อมเมื่อไปต่างประเทศ ถ้าคุณ Check List ครบทั้งหมดแล้วก็เตรียมพร้อมออกเดินทางอย่างสบายใจได้เลย
0 Comments

โหลดฟรี! E-book : Bhutan Guide to 2020

10/8/2019

0 Comments

 
Picture
  ในปี2020 ประเทศภูฏานนั้นได้ขึ้นเป็นอันดับ1 จากการจัดอันดับ “10 จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลกและประเทศที่ให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน” ประจำปี 2563 โดย Lonely Planet
  ประเทศภูฏานเป็นสถานที่หนึ่งจะสามารถทำให้เราพบหนทางแห่งความสุขได้ แม้ว่าจะอยู่เพียงระยะสั้นๆ ไม่ถึงสัปดาห์ก็สามารถเติมเต็มความรู้สึกและความผ่อนคลายได้ ซึ่งสถานที่แห่งนั้นต้องประกอบด้วยความลงตัวในหลายๆ ด้านอย่างธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ อากาศที่บริสุทธิ์ วัฒนธรรมที่สามารถสัมผัสจับต้องได้ วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเยือน
    ประเทศภูฏาน เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอีกหลายๆ คนตัดสินใจเดินทางมาเยือน เพื่อสัมผัสกับความสุขและใช้เวลาผ่อนคลายกับการชมความอุดมสมบูรณ์แหล่งธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหิมาลัย วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีการสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และเสน่ห์ของวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ยังคงดึงดูดให้ทุกมุมโลกมาค้นหาและพิสูจน์ในดินแดนแห่งความสุขของภูฏานแห่งนี้
   สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเทศภูฏานที่น่าสนใจไว้ใน E-Book เล่มใหม่ที่มีชื่อว่า Bhutan guide to 2020 วิถีการไปสัมผัสภูฏาน สู่หนทางแห่งความสุข ซึ่งใน E- book จะอธิบายตั้งแต่การเดินทาง เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ เรื่องเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้ที่สนใจให้ทุกท่านได้ดาวน์โหลดเก็บไว้อ่านได้ตามที่คุณต้องการ

E-book ที่ควรค่าสำหรับผู้ที่สนใจประเทศภูฏานโดยเฉพาะ
​สามารถดาวน์โหลด E-Book เล่มใหม่ของเราได้แล้วที่นี่

Download
0 Comments

6 สิ่งสำคัญ กับ การก้าวสู่ปีที่ 6 ของภูฏานแอร์ไลน์

10/8/2019

0 Comments

 
Picture
   การก้าวสู่ปีที่ 6 ของสายการบินภูฏานแอร์ไลน์นั้น นอกจากการบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า อีกทั้งยังการเป็นศูนย์กลางข้อมูลเกี่ยวกับภูฏาน ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้การเติบโตของเรามีวันนี้ได้ มาดูกันว่า 6 สิ่งเหล่านั้นมีอะไรบ้าง

1. ศูนย์กลางข้อมูลเกี่ยวกับประเทศภูฏาน

   เราสร้างการรับรู้ แลกเปลี่ยน และแชร์คอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ในทางการตลาด โดยผ่านสื่อออนไลน์ในรูปแบบของอีเมลในทุกสัปดาห์ เพราะนอกจากจะเป็นการอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบันแล้ว ยังสร้างการจดจำแบรนด์ของเราอีกด้วย เอเจนท์ทุกท่านคงจะคุ้นเคยกับอีเมลที่เราได้อัพเดทข้อมูลให้อยู่เสมอ ทั้งไฟล์ทบิน, ราคา, สถานที่ท่องเที่ยว และเกร็ดความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อไปได้

2. การบริการดุจญาติมิตร

   เราให้ความสำคัญต่อการสร้างสัมพันธ์ที่ดี และความเอาใจใส่ต่อลูกค้า โดยการบริการที่อำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี ทั้งการติดตามลูกค้า แจ้งเตือนก่อนถึงกำหนด และให้คำแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการโดยสารเดินทางกับสายการบิน รวมถึงการสร้างกลุ่ม Line เพื่อให้ติดต่อเราได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะทุกท่านคือแรงสนับสนุนส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกันของเรา

3. เราพร้อมจะ Confirm ทุกที่นั่งให้คุณ

   แม้เพียงที่เดียวก็ตาม เพราะเรารู้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อภูฏานอย่างมาก เพราะทุกที่นั่งนั้นมีความหมาย เราจึงมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่จะทำการจองและ Confirm ที่นั่งให้กับทุก Booking  ไม่ว่าคุณต้องการที่นั่งมากน้อยเพียงไร เราก็พร้อมจะบริการอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่นั่งมา Confirm ให้กับคุณ เพราะเพียง 1 ที่นั่ง ก็มีความหมายต่อเรา เพราะทุกคนคือคนสำคัญของเรา และทุกๆ ที่นั่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศภูฏานทั้งในด้านการพัฒนาประเทศ การเติบโตและเติมเต็มในดัชนีชี้วัดมวลรวมของประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยความสุข

4. การบริการแบบ Full Service

   เรามีความเชื่อมั่นในสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service) ให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ในการให้การบริการที่ดี ที่นั่งกว้างสบาย อาหารเสิร์ฟบนเครื่องสุดพิเศษจาก Thai Catering (ครัวการบินไทย) ที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดี มีน้ำหนักกระเป๋าเต็มที่ถึง 40 kg. และมีสิ่งอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางทั้งไปและกลับ พร้อมของแถมคือรอยยิ้มจากพนักงานจากสายการบินที่มอบให้ทุกการเดินทาง

5. ยุคนี้ต้องทำการตลาดออนไลน์

   สิ่งสำคัญที่ทำให้ยอดขายของเราเพิ่มสูงขึ้นจากการตลาดออนไลน์ ด้วยยุคปัจจุบันผู้คนอยู่กับสื่อออนไลน์เป็นหลัก ทั้ง search engine อย่าง google หรือ Social Media อย่าง Facebook เราจึงมองเห็นถึงความสำคัญของการตลาดออนไลน์ ที่จะทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และเข้าถึงลูกค้าได้ทันทีในช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการ

6. เรานำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการทำงาน

   เพื่อให้การบริการของเรามีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้าของเรา ด้วยงานและรายละเอียดที่มีอยู่มากมาย ทั้งรายชื่อลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา รายละเอียดที่ลูกค้าได้รีเควส กำหนดวันชำระเงิน การประชุมภายในองค์กร ระดมไอเดียคิดโปรโมชั่น และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สิ่งเหล่านี้หากไม่ทำให้เป็นระบบตั้งแต่ต้น ก็จะทำให้การทำงานของเราตกหล่นได้ เครื่องมือที่เราใช้ทำงานอยู่ที่อยากจะแนะนำ คือ
  • Salesforce - เหมาะสำหรับทีมงานที่ต้องบันทึกข้อมูลลูกค้า อันประกอบไปด้วย ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ชื่อสำนักงาน ฯลฯ อีกทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับค่าชำระเงินต่างๆ  เครื่องมือนี้จะช่วยให้ไม่ตกหล่นในรายละเอียดต่างๆของลูกค้าแน่นอน ทั้งยังสามารถแนบไฟล์รูปหรือเอกสารสำคัญที่ต้องการลงไปได้ ที่สำคัญสามารถทำรายงานออกมาเป็น Excel เพื่อสรุปรายงานการขายไ้ด้วย รวมไปถึงสามารถตั้งค่าให้เป็นในรูปแบบการแสดงผลที่ใช้วัดการเติบโตยอดขายของธุรกิจในแต่ละเดือนหรือแต่ละปีได้อีกด้วย
  • Slack - เหมาะสำหรับทีมงานที่แชทเยอะๆ แชร์ไอเดียรัวๆ และส่งงานเก่งๆ ทั้งส่งไฟล์รูปและเอกสารเป็นจำนวนมากๆ แนะนำเครื่องมือนี้ 
  • Asana - เหมาะสำหรับทีมงานที่ต้องทำโปรเจคเพื่อวางแผนงาน ทำ Task list งานในแต่ละวันในแต่ละโปรเจคที่มีกำหนดส่ง เครื่องมือนี้จะทำให้เห็นภาพรวมการทำงาน ความคืบหน้าและรายละเอียดย่อยในหน้าที่ที่แต่ละคนในทีมที่ต้องทำ เรื่องแชร์ไฟล์หรือรูปนั้นไม่ต้องห่วง ก็สามารถทำได้เช่นกัน
  • Calendly - เหมาะสำหรับทีมงานที่ต้องจัดกิจกรรม ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ทำคอรส์สอนวิชา เปิดกรุ๊ปจัดท่องเที่ยว และทำการนัดหมายการประชุม เครื่องมือนี้จะช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น โดยป้องกันการลงนัดที่ซ้ำซ้อน แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ที่เข้ามาลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก แต่รายชื่อก็จะไม่ตกหล่น เป็นประโยชน์มากเพราะมีการตั้งค่าให้ส่งอีเมลแจ้งเตือนหรือทำการเตือนลงในปฏิทินที่เราต้องการได้อีกด้วย
สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ ฉลองครบรอบ 6 ปี ​
Picture
เปิดประสบการณ์สุดพิเศษเที่ยวภูฏานแบบส่วนตัวเดินทางด้วยสายการบินเอกชน ที่นั่งระดับ Business
พร้อมพักโรงแรมระดับมาตรฐานสากลในบรรยากาศสุดพิเศษ ให้คุณเต็มที่กับการพักผ่อนอย่างแท้จริง


เดินทางเที่ยวภูฏานได้ตลอดทั้งปี ทั้งช่วง High และ Low Season ในราคาพิเศษ
ตลอดการเดินทางมีไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนำเที่ยวชาวภูฏานให้บริการพาทุกท่านไปทุกมุมของภูฏาน
ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยขุนเขาทางธรรมชาติ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์
และซึมซับวัฒนธรรมตลอดทั้งทริป


โดยท่านสามารถระบุวันเดินทางที่ต้องการ และจำนวนผู้ร่วมทริปเองได้
เที่ยวภูฏาน 5 วัน 4 คืน ในราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 69,000 บาท/ท่าน* 
ราคานี้เที่ยวภูฏานได้ถึงสิ้นปีนี้

สนใจสามารถคลิกเข้าชมรายละเอียด หรือ ทำการจองแพ็คเกจนี้ได้
BOOK NOW
 ​* หมายเหตุ : ราคานี้ สำหรับเดินทางตั้งแต่ 3 ท่านขึ้นไป รวมค่าตั๋วเครื่องบินในที่นั่งระดับ Business พร้อมไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถชาวภูฏานบริการนำเที่ยวตลอดทริป
0 Comments

6 เคล็ดลับ เที่ยวภูฏานอย่างไรให้คุ้มค่า

10/8/2019

0 Comments

 
Picture
    ภูฏานเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้ด้วยตัวเอง เพราะการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศภูฏานนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อตั๋วเครื่องบินก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้เหมือนกับประเทศอื่นๆ เนื่องจากทางรัฐบาลของประเทศภูฏานมีโนบายในการดูแลนักท่องเที่ยว โดยให้นักท่องเที่ยวเดินทางกับบริษัททัวร์เท่านั้น ด้วยขั้นตอนที่การเดินทางที่มีความพิเศษกว่าประเทศอื่นๆ แต่ไม่ได้หมายถึงว่ามีเดินทางที่ยุ่งยากหรือจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างที่เข้าใจ สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ขอแนะนำ 6 เคล็ดลับดีๆ เที่ยวภูฏานอย่างไรให้คุ้มค่า

Picture

1. ซื้อตั๋วโดยตรงจากการสายการบิน มีราคาและเช็คที่นั่งได้ชัวร์กว่าบนเว็บไซต์ 

   สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศภูฏาน สายการบินที่สามารถเดินทางเข้าประเทศภูฏานมีเพียง 2 สายการบินเท่านั้น คือ สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ และ สายการบินดรุ๊กแอร์ โดยค่าตั๋วทั้ง 2 สายการบินนั้นราคาเท่ากัน มีบินออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันวันละ 1 เที่ยวบิน สามารถโทรติดต่อกับเจ้าหน้าที่ให้เช็คที่นั่งและทราบราคาตั๋วเครื่องบินได้ทันที
Picture

2. เลือกเที่ยวบินตอนเช้า เพื่อเพิ่มเวลาเที่ยวภูฏานให้มากขึ้น

 การเลือกเที่ยวบินที่บินตั้งแต่เช้า เพื่อไปให้ถึงที่ประเทศภูฏานในช่วงสาย เพิ่มเวลาให้เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในประเทศภูฏานได้อย่างเต็มที่ จากกรุงเทพฯ ถึงสนามบินพาโรที่ประเทศภูฏาน ใช้เวลาบินไม่นาน ประมาณ 4 ชั่่วโมง 15 นาที โดยแวะจอดรอรับผู้โดยสาร
Picture

3. เลือกที่นั่งชมแนวเทือกเขาหิมาลัยได้ทั้งขาไปและกลับ

   เพิ่มความพิเศษให้การเดินทางของคุณด้วยการเลือกที่นั่งบนเครื่อง ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้จากบนเครื่อง โดยขาไปเลือกที่นั่งฝั่งซ้าย และขากลับเลือกที่นั่งฝั่งขวา เพียงเท่านี้การเดินทางของคุณก็จะพิเศษกว่าใคร
Picture

4. เลือกบริษัททัวร์ที่มีความน่าเชื่อถือ

   เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้เดินทางไปเยือนภูฏานอย่างไร้กังวล เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ พร้อมรับประสบการณ์ที่ดีตลอดการเดินทาง โดยส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะจัดเป็นแพ็คเกจมาให้ทุกท่านได้เลือก ซึ่งจะรวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน โรงแรม อาหารทุกมื้อ ไกด์ท้องถิ่นพร้อมคนขับรถนำเที่ยว และสิ่งสำคัญคือวีซ่าท่องเที่ยว (ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทจะกำหนด) 
Picture

5. เลือกเที่ยวแบบส่วนตัว

   การเที่ยวแบบทัวร์ส่วนตัวจะทำให้การเดินทางเป็นไปในแบบที่คุณต้องการ ที่ให้คุณสามารถเลือกวันเดินทางเองได้ตามที่สะดวก แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวนานแค่ไหนก็ได้ โปรแกรมยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามที่คุณต้องการ และเที่ยวเพลินไม่ต้องรอใคร
Picture

6. เลือกที่นั่ง Business เพิ่มความสบาย

   เพื่อความสะดวกในการเดินทางให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการ Upgrade เป็นที่นั่งชั้นธุรกิจ โดยเพิ่มเงินเพียงหลักพันเท่านั้น แต่มาพร้อมกับการบริการที่เหนือชั้นแบบสุดๆ นอกจากที่นั่งกว้างสบายแล้ว ยังมีบริการ Fast Track, Airport Lounge และการบริการแบบ Full Service ที่มอบความคุ้มค่าให้คุณมากกว่าใคร
สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ ฉลองครบรอบ 6 ปี 
Picture
เปิดประสบการณ์สุดพิเศษเที่ยวภูฏานแบบส่วนตัวเดินทางด้วยสายการบินเอกชน ที่นั่งระดับ Business
พร้อมพักโรงแรมระดับมาตรฐานสากลในบรรยากาศสุดพิเศษ ให้คุณเต็มที่กับการพักผ่อนอย่างแท้จริง


เดินทางเที่ยวภูฏานได้ตลอดทั้งปี ทั้งช่วง High และ Low Season ในราคาพิเศษ
ตลอดการเดินทางมีไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนำเที่ยวชาวภูฏานให้บริการพาทุกท่านไปทุกมุมของภูฏาน
ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยขุนเขาทางธรรมชาติ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์
ละซึมซับวัฒนธรรมตลอดทั้งทริป


โดยท่านสามารถระบุวันเดินทางที่ต้องการ และจำนวนผู้ร่วมทริปเองได้
เที่ยวภูฏาน 5 วัน 4 คืน ในราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 69,000 บาท/ท่าน* 
ราคานี้เที่ยวภูฏานได้ถึงสิ้นปีนี้

สนใจสามารถคลิกเข้าชมรายละเอียด หรือ ทำการจองแพ็คเกจนี้ได้
BOOK NOW
 ​* หมายเหตุ : ราคานี้ สำหรับเดินทางตั้งแต่ 3 ท่านขึ้นไป รวมค่าตั๋วเครื่องบินในที่นั่งระดับ Business พร้อมไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถชาวภูฏานบริการนำเที่ยวตลอดทริป
0 Comments

3 เคล็ดลับเลือกที่นั่งบินไปภูฏาน ได้ชมวิวเทือกเขาหิมาลัยด้วย

9/26/2019

0 Comments

 
Picture
ใครที่เคยเดินทางไปเยือนประเทศภูฏานมาแล้วคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่เคยเดินทางไปเยือน สายการบินภูฏานแอร์ไลน์กับเที่ยวบิน กรุงเทพฯ - พาโร (ภูฏาน) ที่มีบินทุกวันจากสุวรรณภูมิฯ จะมาแนะนำวิธีเลือกที่นั่งอย่างไรให้ได้เห็นวิวแนวเทือกเขาหิมาลัยกัน 

เคล็ดลับที่ 1 : อยากเห็นวิวแนวเทือกเขาหิมาลัย ต้องเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง
เดินทางไปเยือนภูฏานทั้งที ถ้าได้เห็นวิวแนวเทือกเขาหิมาลัยด้วยแล้ว ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่จะได้ชมความงามจากมุม Bird Eye View หากช่วงวันที่เดินทางอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ยิ่งจะเห็นวิวได้ชัดขึ้น ดังนั้น พลาดไม่ได้เลยสิ่งสำคัญ คือ ต้องเลือกที่นั่งติดริมหน้าต่างเท่านั้น นอกจากการนั่งริมหน้าต่างจะเห็นแนวเทือกเขาหิมาลัยได้แล้ว ยังสามารถเห็นวิวต่าง ๆ ระหว่างเดินทางได้อย่างชัดเจน ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
Picture
เคล็ดลับที่ 2 : สูตรนี้ท่องไว้ ไปซ้าย - กลับขวา
โดยขาไปเดินทางออกจากสุวรรณภูมิฯ ให้เลือกนั่งฝั่งซ้าย (A-B-C) ส่วนขากลับจากพาโรให้เลือกที่นั่งฝั่งขวา (D-E-F) สูตรนี้ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจตั้งแต่ก่อนจองตั๋ว (สามารถรีเควสกับเจ้าหน้าที่จองตั๋วของสายการบินฯ ได้ แต่จะไม่สามารถระบุที่นั่งได้ ซึ่งจะทราบหมายเลขที่นั่งได้ก็ต่อเมื่อทำการ Check-in ที่เคาน์เตอร์ของสายการบินในวันที่เดินทางเท่านั้น) ที่นั่งบนเครื่อง ตั้งแต่แถวที่ 1-3 เป็นชั้นธุรกิจ เก้าอี้นั่งคู่ ส่วนแถวที่ 4-23 เป็นชั้นธรรมดา เก้าอี้เรียงสาม
สำหรับเที่ยวบินขาไป ที่นั่งด้านซ้ายของเครื่อง คือ A-B-C เมื่อตอนเครื่องบินกำลังลดระดับความสูงลง คุณจะเห็นวิวเทือกเขาหิมาลัยได้ชัดเจน แสงในยามเช้าจะไม่จ้าจนเกิดอาการแสบตา ส่วนในตอนขากลับ เลือกที่นั่งด้านขวา คือ D-E-F ซึ่งจะเห็นวิวหิมาลัยเช่นกัน แต่วิวนั้นจะไม่ซ้ำเหมือนตอนขาไปแน่นอน เนื่องจากเครื่องบินจากเมืองไทยไปพาโร ทั้งไปและกลับในบางเที่ยวบิน ต้องไปลงจอดรับผู้โดยสารที่กัลกาต้าในอินเดียก่อน โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที เสร็จแล้วค่อยบินไปยังจุดหมายปลายทางต่อ เส้นทางบินจึงไม่เหมือนกัน
Picture
เคล็ดลับที่ 3 : เลือกที่นั่งที่กว้างสบาย สำหรับการเดินทาง
ระยะเวลาในการเดินทางในเส้นทาง กรุงเทพฯ - พาโร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง นั้น สำหรับใครที่เคยเดินทางบ่อยๆ นั่งเครื่องไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง อาจจะรู้สึกเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนัก แต่ใครที่นั่งนานๆ แล้วรู้สึกปวดเมื่อยง่าย นับว่าเป็นเวลาที่ค่อนข้างนานและทรมานพอสมควร ดังนั้น การเลือกที่นั่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การเลือกที่นั่งที่มีความกว้างสบาย มีพื้นที่ที่สามารถยืดขาได้ จะช่วยให้การนั่งของคุณผ่อนคลายและสบายมากขึ้น
Picture
    เพียงเท่านี้ การเดินทางไปเยือนประเทศภูฏานของคุณ ได้ทั้งที่นั่งที่กว้างสบายและได้ทั้งชมวิวสวยๆ ของแนวเทือกเขาหิมาลัยไปพร้อมกัน 
0 Comments

เที่ยวภูฏานในฤดูกาลเก็บเกี่ยว (Autumn in Bhutan)

8/29/2019

0 Comments

 
Picture
    ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่ภูฏาน หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี อากาศเริ่มเย็น ท้องฟ้าแจ่มใสตัดกับทุ่งข้าวสีเหลืองทองอร่าม เหมาะกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคในประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตเกษตรกรที่ผูกพันกับธรรมชาติ วัฒนธรรมแบบดั้งเดิม เทศกาลประจำปี และความศรัทธาในศาสนาพุทธนิกายวัชรยาน หากคุณมีโอกาสมาเที่ยวภูฏานในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ถือว่าเป็นฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด สำหรับช่วงฤดูกาลนี้จะได้พบกับสิ่งที่พิเศษๆ อะไรบ้าง
Picture

1. ชม GOLDEN LIGHT  ที่ภูฏาน

   ในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในภูฏาน คือ ฤดูใบไม้ร่วง ทั้งเมืองจะกลายเป็นสีเหลืองทองสวยงามมาก ไม่ว่าจะเป็น คันนา รวงขาว ต้นไม้ ใบหญ้าทั้งแผ่นผืนล้วนพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง มองแล้วสบายตาทำให้คลายความเครียดได้ดีเลยทีเดียว อากาศและอุณหภูมิในฤดูใบไม้ร่วงอยู่ที่ประมาณ 5 - 23 องศาเซลเซียส ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ซึมซับความผ่อนคลาย และรักการถ่ายภาพ เตรียมตัวและอุปกรณ์ของท่านให้ดี ไม่ควรพลาดแม้แต่ชั่วพริบตาเดียวกับช่วงเวลา GOLDEN TIME ที่เหมือนราวกับภาพวาดในทุ่งหญ้ารวงข้าวสีทอง หากใครอยากได้ภาพสวยๆ เราขอแนะนำให้เดินทางไปที่ วัดชิมิลาคัง เมืองพูนาคา ระหว่างทางเดินไปที่วัดจะผ่านทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยสีเหลืองทองวิวสวยมาก เดินชิลๆ ถ่ายรูปสวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด สัมผัสลมเบาๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ซึมซับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวภูฏานที่อาจจะได้เห็นตลอดการเดินทาง
Picture

2. ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวของชาวภูฏาน

  ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงที่ชาวภูฏานก็จะทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะ "ข้าว" ซึ่งข้าวของประเทศภูฏานยังเป็นสินค้าที่มีการส่งออกไปขายยังประเทศอเมริกาอีกด้วย หากพูดถึง “ข้าวภูฏาน” มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ คือ เป็นข้าวไม่ขัดสีและมีขนาดเม็ดมีความเรียวสวยงาม ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวภูฏานสามารถซื้อกลับมาเป็นของฝากได้ในราคาไม่แพง
Picture

3. เทศกาลทิมพูเซชู 

   ในช่วงเดือนตุลาคมของปี 2019 ยังมีเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีให้ชมอีกด้วย คือ เทศกาลทิมพูเซชู หรือ เทศกาลระบำหน้ากาก ที่จัดขึ้นที่เมืองทิมพู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศภูฏาน โดยผู้แสดงในเทศกาลระบำหน้ากากนี้ คือ “พระ และ ฆราวาส” ของประเทศภูฏาน การแสดงนี้เป็นการเล่าเรื่องด้วยการร่ายรำ และใช้บทสวดมนต์ คำสอนและบทความปรัชญาในคัมภีร์พระไตรปิฎก โดยใช้การร้องออกมาเป็นเพลงประกอบการแสดง อีกหนึ่งการแสดงในเทศกาลทิมพูเซซูที่เป็นศูนย์กลางความสนใจ เป็นที่เคารพสักการะและตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกันคือ การแสดงผ้าทังก้า หรือที่รู้จักกันว่า การแสดงผ้าพระบฏ เล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนา ความเชื่อ และประวัติศาสตร์ของชาวภูฏานที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน ในการจัดเทศกาลเกิดขึ้นในอีกหลายๆ เมืองอย่าง เมืองพาโร และเมืองพูนาคา เป็นต้น ซึ่งมีการเวียนเปลี่ยนตามวันและฤดูกาลที่แตกต่างกันไป หากต้องการเดินทางมาเที่ยวชมควรเช็คตารางเทศกาลให้ดี เพราะในแต่ละปีอาจมีขยับช่วงวันและเดือนที่จัดได้
0 Comments

สีสันตระกานตา เทศกาลระบำหน้ากากภูฏาน

8/19/2019

0 Comments

 
Picture
  เทศกาลประจำปีของประเทศภูฏานที่โดดเด่น คือ เทศกาลระบำหน้ากาก ซึ่งนำแสดงโดยพระสงฆ์และฆราวาส เทศกาลระบำหน้ากากจะจัดขึ้นที่ “ซอง” (Dzong) หรือป้อมปราการในแต่ละเมือง โดยเทศกาลระบำหน้ากากถือว่าเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ และถือเป็นวันหยุดราชการของประเทศภูฏานอีกด้วย ซึ่งไฮไลท์ของเทศกาลระบำหน้ากากอยู่ที่พระสงฆ์และฆราวาสเป็นผู้นำแสดง โดยเป็นการแสดงที่ถ่ายทอดเกี่ยวกับเรื่องราวทางศาสนาผ่านทางการร่ายรำ ชาวภูฏานจะมาเข้าร่วมฟังเทศน์ฟังธรรมกันเป็นจำนวนมาก ชุดที่สวมใส่ในการแสดงจะเป็นชุดที่มีสีเหลืองสดถักทอด้วยผ้าไหมและผู้แสดงจะต้องสวมหน้ากากเวลาร่ายรำ หากใครได้มาเที่ยวภูฏานในช่วงเทศกาลระบำหน้ากากนี้ ถือได้ว่าเป็นการมาเที่ยวที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่่สุดอีกด้วย 
Picture
เทศกาลระบำหน้ากาก ทิมพู เซชู (THIMPHU TSHECHU)
   
ทิมพู เซชู เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเทศกาลหนึ่งของประเทศภูฏาน จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ณ ลานป้อมปราการตาชิโชซอง เมืองหลวงทิมพู ในวันที่ 10 เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ โดยจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มีชาวเมืองทิมพูและชาวเมืองใกล้เคียงเข้าร่วมงานกว่าพันคน ที่จริงแล้วแต่เดิมนั้นเป็นพิธีกรรมทางศาสนาอย่างหนึ่งที่ภาวนาขอพรจากเทพเจ้า เทศกาลทิมพู เซชู ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 1867 มีชุดการแสดงเพียง 2-3 ชุด และแสดงโดยพระ ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อปี 1950 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จิ วังชุก กษัตริย์รัชกาลที่ 3 ทรงนำระบำหน้ากากโดยพระสามเณรมาประยุกต์เข้ากับการแสดงแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี โดยเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้การแสดงมากขึ้น และทำให้ผู้ชมเกิดความสนุกสนาน เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกับละครเวที จะเป็นการเล่าเรื่องด้วยการร่ายรำ และใช้บทสวดมนต์ คำสอน บทความปรัชญาในคัมภีร์พระไตรปิฎกร้องออกมาเป็นเพลงประกอบการแสดง อีกหนึ่งการแสดงในเทศกาลทิมพูเซซู ที่เป็นศูนย์กลางความสนใจเป็นอย่างดี และนับเป็นที่เคารพสักการะ และตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกันคือ การแสดงผ้าทังก้า หรือที่รู้จักกันว่า การแสดงผ้าพระบฏ เล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนา ความเชื่อ และประวัติศาสตร์ของชาวภูฏานที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน
   
ตัวละครที่สำคัญตัวหนึ่งในเทศกาลทิมพู เซชู คือ ตัวตลกอัทสารา (Atsaras) ตัวละครตัวนี้เป็นมากกว่าตัวตลกธรรมดา แต่เชื่อว่าเป็นเสมือนผู้ปกป้องสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาทำลายงานเทศกาล ในปัจจุบันตัวตลกอัทสาราจะทำการแสดงสั้นๆ เรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคมและเรื่องสุขภาพให้แก่ผู้ชม
Picture
เทศกาลระบำหน้ากาก เมืองฮา (HAA TSHECHU)
   จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในฤดูใบไม้ร่วงท่ามกลางหุบเขาฮา เป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของภูฏาน ที่นำเสนอเอกลักษณ์ทางประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองภูฏานได้อย่างดี สำหรับชาวภูฏานแล้ว เทศกาลระบำหน้ากากฮา ถูกเชื่อว่าเป็นการเฉลิมฉลองที่ยกระดับจิตวิญญาณ เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายอย่างอลังการของผู้แสดงการร่ายรำ รวมถึงการแต่งกายชุดประจำชาติของชาวเมืองที่มาร่วมงาน เชื่อกันว่าการถ้าใครได้เข้าชมเทศกาลดังกล่าวจะได้รับบุญ ความโชคดี และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิต
Picture
เทศกาลระบำหน้ากาก พาโร เซชู (PARO TSHECHU)
 เทศกาลสำคัญของเมืองพาโรซึ่งเต็มไปด้วยสีสันตระการตา หากคุณได้มาเที่ยวภูฏานในฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้ชมบรรยากาศน่าตื่นตาของเทศกาลระบำหน้ากากนี้ที่พาโรรินปุงซอง เมืองพาโร เทศกาลพาโร เซชูได้รับการนับถึอจากชาวเมืองพาโร และแม้แต่ชาวเมืองใกล้เคียงก็มาร่วมงานเทศกาล ในวันสุดท้ายของงาน พระจะขึงผ้าทังกาผืนใหญ่ มีภาพวาดเป็นเรื่องราวในพระพุทธศาสนา และนำพระพุทธรูปท่านคุรุรินโปเชที่เก็บรักษาอย่างดีในซองมาแสดงต่อชาวเมืองพาโร พระพุทธรูปท่านคุรุรินโปเชเป็นศิลปะพระพุทธรูปสำคัญที่สวยงามลึกซึ้ง ชาวเมืองเชื่อกันว่าการมีโอกาสได้เห็นและสวดมนตร์ต่อหน้าพระพุทธรูปท่านคุรุรินโปเชจะเป็นการชำระบาปได้
Picture
เทศกาลระบำหน้ากาก พูนาคา เซชู (PUNAKHA TSHECHU)
  
จัดขึ้นที่พูนาคาซอง เมืองพูนาคา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ การแสดงในเทศกาล พูนาคา เซชู นอกจากแสดงเกี่ยวกับพระธรรมคำสอน ยังมีการแสดงเรื่องราวที่เป็นประวัติศาสตร์ด้วยคือเรื่องราวเมื่อครั้งที่ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล เอาชนะข้าศึกทิเบตที่ยกกำลังมาบังคับให้ภูฏานมอบพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ที่เก็บรักษาอยู่ในพูนาคาซอง เพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมของท่านและถวายเครื่องบูชาพระแม่คงคา
0 Comments

7 เทคนิค แนะนำผู้พิชิตวัดทักซัง

8/18/2019

0 Comments

 
Picture
   สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูฏานทุกท่าน ไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนต้องมาสัมผัสในดินแดนแห่งมังกรแห่งนี้ วัดทักซัง หรือ เป็นที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า รังเสือ หรือ วัดถ้ำเสือ (Tiger’s Nest) ซึ่งเป็น 1 ในวัดที่สวยและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตร มีทัศนียภาพที่น่าตื่นตาอย่างยิ่ง มาดู 7 เทคนิคในการเป็นผู้พิชิตวัดทักซังกัน
Picture

เทคนิคที่ 1  อยากเป็นผู้พิชิต ต้องจัดทริปไว้วันท้ายๆ
 

 ไม่ว่าคุณอายุยังน้อยหรืออายุมาก พละกำลังทั้งร่างกายและจิตใจนั้นยังแข็งแรงเหลือล้น เราแนะนำว่า วัดทักซัง (Tiger’s Nest) จัดทริปไว้ช่วงวันท้ายๆ ก่อนกลับดีกว่าแน่นอน ในช่วงวันแรกๆ การเดินไปเที่ยวชมยังสถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่คุณจัดไว้ หรือซื้อแพ็คเกจจากบริษัททัวร์ที่เขาจัดโปรแกรมไว้ให้ ถือว่าเป็นการทดสอบกำลังขา กำลังกาย และกำลังใจที่ดีมากๆ วอร์มอัพเตรียมร่างกายให้ผู้พิชิตวัดทักซังทุกท่านได้ประเมินตัวเอง จับจังหวะการเดิน และการกำหนดลมหายใจก่อนถึงวันจริงที่ทุกท่านจะได้ใช้บททดสอบที่ได้ฝึกฝนมา เดินขึ้นไปพบกับความตระกานตาตั้งแต่วิวทิวทัศน์ระหว่างทางจนถึงยอดบนสุดของวัดทักซัง​
Picture

เทคนิคที่ 2  เริ่มเดินตั้งแต่เช้านั้นได้เปรียบ

 เริ่มก่อนได้เปรียบก่อน หากผู้พิชิตตื่นเช้า ข้อได้เปรียบนอกจากจะได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า แดดไม่ร้อนจนเกินไปแล้วนั้น นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นจนเกินไป ถ่ายภาพบรรยากาศรอบๆ ได้อย่างจุใจ โดยไม่มีใครมาบดบังวิวทิวทัศน์ของเรา มีเวลาเดินไม่ต้องเร่งรีบให้เหนื่อยกาย เก็บแรงไว้ กลับมาก่อนถึงเวลาช่วงเย็นได้ไปเดินเที่ยวต่อในเมืองได้สบาย​
Picture

​เทคนิคที่ 3​  ทานอาหารให้เบาท้องที่สุด
​
​  
สำหรับมื้อเช้าก่อนเดินทาง แนะนำว่า ทานอาหารที่ไม่ทำให้รู้สึกอิ่มจนเกินไป เพราะอาจจะทำเรารู้สึกจุกและเดินไม่ไหวได้ แม้ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องก็ตาม ส่วนมื้อกลางวันนั้นไม่ต้องห่วง เพราะข้างบนมีร้านอาหารให้บริการ หากกลัวว่าระหว่างทางจะรู้สึกหิว แนะนำให้พกพวกขนมที่เป็นช็อคโกแลตบาร์ ซีเรียลบาร์ และลูกอม จะช่วยให้คลายความหิวระหว่างการเดินทางได้
Picture

เทคนิคที่ 4​  ทำกระเป๋าให้เบาที่สุด

  ของที่ไม่จำเป็นเอาออกไปให้หมด การทำให้กระเป๋าเบาที่สุด คือ ทางเดินแห่งสวรรค์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้พิชิตวัดทักซัง นอกจากช่วยให้เดินอย่างสบายคล่องตัวแล้ว ยังทำให้เราไม่รู้สึกหนักจนหมดกำลังใจในการเดินขึ้นไประหว่างทางอีกด้วย สำหรับสิ่งของที่จำเป็นที่สุดที่ควรมีติดกระเป๋า คือ น้ำดื่ม ซึ่งช่วยดับกระหายน้ำได้ ด้วยการจิบน้ำทีละน้อยทุกๆ หนึ่งชั่วโมง จะทำให้ไม่เกิดอาการจุกแน่นท้อง และยังทำให้ปวดปัสสาวะน้อยลงได้  ส่วนยารักษาโรคและอุปกรณ์พยาบาลเบื้องต้น เช่น ยาดม ยาหม่อง ยานวดแก้เคล็ดขัดยอก ยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย ปลาสเตอร์ ยาใส่แผล แอลกอฮอล์ล้างแผล สำสี กรรไกร เป็นต้น  หากทำเป็นชุดเล็กๆ พกติดตัวไปด้วยก็จะทำให้คุณอุ่นใจมากขึ้น​​
Picture

เทคนิคที่ 5 จังหวะการเดิน ของใครของมัน

   จังหวะการเดินของผู้พิชิตแต่ละคนนั้นไม่มีวันที่จะเท่ากันอย่างแน่นอน บางคนก้าวเร็ว บางคนก้าวช้า หัวใจสำคัญของการเดิน นั่นคือ อย่านำจังหวะก้าวเดินของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับเราเอง ให้มีสมาธิจดจ่อกับการเดินในจังหวะที่เป็นแบบของเรา แม้ว่าก้าวช้ากว่าคนอื่น แต่มีแรงก้าวเดินอยู่เรื่อยๆ ทุกก้าวเดินด้วยความปลอดภัย ไม่บาดเจ็บ ถึงจุดหมายตามที่ใจต้องการได้เหมือนกัน ส่วนรองเท้า ควรใส่แบบผ้าใบหุ้มส้นที่ใส่แล้วรู้สึกสบายเท้า เพื่อความกระชับระหว่างการเดินและป้องกันการบาดเจ็บได้เบื้องต้น​
Picture

เทคนิคที่ 6 เกิดอาการเหนื่อย หายใจไม่ถนัด ขอให้หยุดพักแล้วเดินต่อ

   ในช่วงแรก ควรจะเดินตามกำลังของร่างกาย รักษาจังหวะการเดินให้คงที่ ออมแรงไว้ให้ร่างกายได้ปรับตัวในทุกๆ ก้าวที่เราเดิน หากเราเริ่มฝืน พยายามเดินให้ทันกับผู้พิชิตท่านอื่น กลัวว่าจะอยู่รั้งท้าย นั้นเป็นสิ่งที่ผิดมากๆ เพราะยิ่งเร่งสปีดให้เร็วขึ้น ก็ยิ่งจะทำให้เราเหนื่อยมาก อาการต่อมาเริ่มหายใจไม่ถนัด และร่างกายปรับตัวไม่ทัน สุดท้ายก็เริ่มท้อแล้วไม่อยากเดินต่อ ข้อแนะนำให้กับผู้พิชิตที่ดีที่สุด คือ หากเริ่มรู้สึกเหนื่อย ให้ยืนพักให้หายเหนื่อยสักครู่ มีข้อแม้อย่างเดียวที่สำคัญ คือ ห้ามนั่งพักเด็ดขาด ในระหว่างที่ยืนพักให้สัมผัสลมหายใจที่กำลังเข้าและออก การเงยหน้าผ่อนลมหายใจเข้าและออกให้ยาวๆ ในจังหวะช้าๆ จากที่หายใจแรงจนเริ่มรู้สึกหายใจเป็นปกติดีขึ้น จิบน้ำแต่น้อยพอให้ร่างกายมีแรงขึ้นมาสักนิดก่อนที่จะเริ่มเตินต่อ
Picture

เทคนิคที่ 7 รวมกลุ่มเราอยู่ แยกกันเราห้ามถอย

   หากผู้พิชิตไปกันเป็นกลุ่ม ถ้ามีคนในกลุ่มเหนื่อยจนเดินไม่ไหวให้เปลี่ยนคนที่เดินนำหน้ามาอยู่ในระดับเดียวกัน หรือให้คละคนที่เหนื่อยกับไม่เหนื่อยแยกเป็น 2 กลุ่ม เดินไปพร้อมๆ กัน จะทำให้ช่วงส่งแรงให้เดินตามจังหวะที่ใกล้เคียงกัน และลดความกดดันลงได้อย่างมาก ท่องไว้เสมอว่า เรามาเที่ยว เรามาสนุก และเราไม่ได้มาเดินแข่งกับใคร
0 Comments

จุดเริ่มต้นของพุทธศาสนา กับต้นไม้แห่งการตรัสรู้

7/16/2019

0 Comments

 
Picture
  “พุทธคยา” เชื่อว่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลายคงรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี ด้วยเป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญที่สุด 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน และถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่ที่เจ้าชาย      สิทธัตถะได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเวลากว่า 2,500 ปีแล้ว
    “พุทธคยา”​ สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของจุดหมายแสวงบุญของชาวพุทธผู้มีศรัทธาทั่วโลก ปัจจุบันพุทธคยามีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า              “วัดมหาโพธิ์” ตั้งอยู่ที่จังหวัดคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา 350 เมตร ในปัจจุบันพุทธคยาอยู่ในความดูแลของ    คณะกรรมการร่วม พุทธ-ฮินดู และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2545  
Picture
    “พุทธคยา” เป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมี “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ ณ ที่แห่งนี้รวมทั้งหมดมี 4 ต้น และทั้ง 4 ต้นนี้ได้เจริญเติบโตทดแทนกันมาเรื่อยๆ จากที่เดิม มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน นับเป็นอนุสรณ์สถานที่มีคุณค่าของชาวพุทธและมวลมนุษยชาติทั่วโลก 
Picture
   ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 1 เป็นต้นไม้คู่พระบารมีและเป็นสหชาติของพระโพธิสัตว์ เกิดขึ้นพร้อมกับวันที่พระโพธิสัตว์ประสูติ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า สหชาติมี 7 ประการ (สัตตสหชาติ) คือ พระนางพิมพา, พระอานนท์พุทธอนุชา, นายฉันนะ, อำมาตย์กาฬุทายี, ม้ากัณฐกะ, ขุมทรัพย์ 4 มุมเมือง และต้นอัสสัตถพฤกษ์หรือต้นโพธิ์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 1 นี้ เป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงประทับตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์ได้รับการถวายหญ้ากุสะจำนวน 8 กำจากโสตถิยะพราหมณ์ เพื่อปูเป็นที่ประทับเมื่อใกล้รุ่งของวันเพ็ญ เดือน 6 จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระองค์ตรัสว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้แทนพระพุทธองค์ หากใครได้ไหว้ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็เท่ากับว่าได้ไหว้สักการะพระพุทธองค์ และหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นจำนวนมาก ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภ์ ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก เช่น ทรงสร้างพระเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชาจำนวนถึง 84,000 องค์ ซึ่งทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชไม่สนพระทัยในความสุขส่วนพระองค์เหมือนเช่นเคย เมื่อว่างเว้นจากราชกิจก็มาปฏิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไม่กลับวังที่ประทับ จึงเป็นเหตุให้เหล่าพระมเหสีนางสนมทั้งหลายต่างพากันโกรธแค้นอิจฉาต้นพระศรีมหาโพธิ์      พระมเหสีองค์ที่ 4 ของพระเจ้าอโศกมหาราช นามว่า มหิสุนทรี (พระนางติษยรักษิต) ได้รับสั่งให้นางข้าหลวงนำยาพิษและน้ำร้อนแอบไปรดที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์จนทำให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตายไปในที่สุด นับเป็นการล้มตายลงไปหลังสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จเข้าสู่ปรินิพพานล่วงไปแล้ว 200 ปี การล้มตายของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเสียพระทัยเป็นอันมาก ได้ทรงมีรับสั่งให้มหาดเล็กเอาน้ำนมโค 100 หม้อไปรดที่บริเวณรากของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ล้มตายลงไปนั้นทุกวัน และทรงอธิษฐานพร้อมกับการสักการะก้มกราบ พระองค์ทรงมีพระราชปรารภว่า หากแม้ว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่แตกหน่อขึ้นมาแล้วไซร้ จะไม่ยอมลุกขึ้นเป็นอันขาด ด้วยพุทธานุภาพและพระราชศรัทธาอันแรงกล้าแห่งพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นที่อัศจรรย์ต้นพระศรีมหาโพธิ์ภายหลังก็แตกหน่องอกขึ้นมาใหม่ จึงได้นับหน่อนี้เป็นต้นที่ ๒ และมีอายุยืนต่อมาอีกหลายร้อยปี พระเจ้าอโศกมหาราชทรงดีพระทัยเป็นอันมากจึงทรงมีรับสั่งให้ก่อกำแพงล้อมรอบไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับต้นพระศรีมหาโพธิ์อีก 
Picture
    ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 2 ถือเป็นต้นที่แตกหน่อมาจากต้นแรก การที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก จึงมีการนำต้นพระศรีมหาโพธิ์ไปปลูกในประเทศต่างๆ ด้วย เช่น พระโสณะเถระและพระอุตตรเถระ เดินทางไปยังดินแดนสุวรรณภูมิ และ พระมหินทเถระ พระนางสังฆมิตตาเถรี เดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เป็นต้น โดยพระภิกษุและพระภิกษุณีเหล่านี้ได้นำต้นหรือกิ่งของต้นพระศรีมหาโพธิ์ไปด้วย
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 2 ถูกทำลายจนล้มตายอีกครั้งในสมัย พระเจ้าปรณวรมา แคว้นมคธของพระองค์ได้ถูกรุกรานโดย พระเจ้าสาสังการ แห่งฮินดู จากแคว้นเบงกอล พระเจ้าสาสังการได้ทรงรับสั่งให้ตัดต้นและขุดราก ใช้ฟางอ้อยสุม ใช้น้ำมันราด และเผาต้นพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งมีอายุราว 871-891 ปี จนล้มตาย 7วันหลังจากนั้น พระเจ้าสาสังการทรงอาเจียนเป็นพระโลหิต และสิ้นชีพตักษัยที่พุทธคยา ซึ่งพระเจ้าปรณวรมาเสด็จมาพอดี จึงตีทัพของเบงกอลแตกพ่ายไป และทรงให้ชาวบ้านรีดนมโค 1,000 ตัว เอาน้ำนมที่ได้เทราดบริเวณต้นโพธิ์ที่ถูกเผา พระเจ้าปรณวรมาทรงนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น พร้อมอธิษฐานตามแบบพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งภายหลังต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่องอกขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง จึงได้นับหน่อนี้เป็นต้นที่ 3 

​   ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 3 ในปี พ.ศ.2418 นายพลโทเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม (Sir Alexander Cunningham) ชาวอังกฤษ หัวหน้าคณะสำรวจพุทธสถานในช่วงอังกฤษปกครองประเทศอินเดีย ผู้ค้นพบสถานที่ตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เดินทางไปที่เมืองพุทธคยาเป็นครั้งที่ 2 พบว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรุดโทรมมาก ประชาชนชาวฮินดูในบริเวณนั้นได้ตัดกิ่งก้านไปทำเชื้อเพลิง ครั้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.    2421-2423 ได้เกิดพายุใหญ่ เป็นเหตุให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เบียดกับพระเจดีย์พุทธคยา กระทั่งหักโค่นล้มลงไปทางทิศตะวันตกและล้มตายไปเอง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 3 นี้มีอายุยืนประมาณ 1258-1278 ปี
Picture
    ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 4 เป็นต้นที่ยังคงยืนต้นอยู่ที่พุทธคยาในปัจจุบัน เป็น 1 ใน 2 หน่อที่แตกขึ้นมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 3 ที่     ล้มตายไป โดยท่านเซอร์คันนิ่งแฮม ได้บำรุงดูแลหน่อที่เกิดมานั้นเมื่อปี พ.ศ. 2423 และนำอีกหน่อหนึ่งไปปลูกไว้ด้านทิศเหนือของพระเจดีย์        พุทธคยา ห่างจากต้นเดิมประมาณ 50 เมตร ซึ่งปัจจุบัน “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ทั้ง 2 ต้นนี้ยังคงยืนต้นอยู่ มีอายุยืนยาวจวบถึงทุกวันนี้ 

​ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia,www.watthaibuddhagaya935.com 

    ปัจจุบันต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้งสองต้นยังคงอยู่มีอายุได้ถึงทุกวันนี้ อายุได้ 139-140 ปี ท่านสาธุชนผู้ศรัทธาสามารถเดินทางไปสักการะได้ด้วยตนเอง สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ก็เป็นอีกสายการบินที่มีเส้นทาง ”พุทธคยา” บินตรงจากสุวรรณภูมิถึงพุทธคยา โดยใช้เวลาบินเพียง 3 ชั่วโมง   15 นาทีเท่านั้น ท่านก็ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว

    สำหรับท่านที่สนใจเดินทางตามรอยพระพุทธเจ้า สู่สังเวชนียสถาน สำคัญของพุทธศาสนิกชน โดยสายการบินภูฏานแอร์ไลน์ได้เห็นถึงความสำคัญของพุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมาก มีความประสงค์ที่จะเดินทางไปยัง พุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อเอื้ออำนวยในการเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งธรรมะ สายการบินภูฏานแอร์ไลน์จึงได้เปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพ-พุทธคยา ในช่วงเดือนธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ของทุกปี

สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ เส้นทาง กรุงเทพ-พุทธคยา (บินตรง)
ตั้งแต่วันที่ 4 ธค 62 - 29 กพ 63 
บินเฉพาะวันพุธและวันเสาร์
ราคา 7,890บาท เที่ยวเดียว (ยังไม่รวมภาษี)
ราคา 14,400 บาท ไป-กลับ (รวมภาษี)

สอบถามและสำรองที่นั่ง โทร 02-630-4600 
Picture
0 Comments
<<Previous

    RSS Feed

Bhutan Airlines Thailand - GSA, OMG Experience Co., Ltd.
  • หน้าแรก
  • สำรองที่นั่ง
  • พุทธคยา
  • ภูฏาน
  • บล็อก
  • ติดต่อเรา